ต้นปี 2559 นี้ทางจังหวัดตรัง โดยนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้เปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล แห่งใหม่ขึ้น หลังจากที่เดินท่องเที่ยวสำรวจเที่ยวชมไปตามหมู่บ้านชายฝั่งทะเล ชายหาดเกาะแก่ง และในทะเลผ่านอ.ปะเหลียนหาดสำราญ ย่านตาขาว สิเกา และอ.กันตังในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวทะเลตรังฝั่งอันดามัน
ที่สุดก็พบเจอกับความสวยงาม แปลกตาของสันเนินทราย ที่ธรรมชาตินำเม็ดกรวดทราย เปลือกหอย ดินโคลน มาปั้นแต่งมีลักษณะรวมกันเป็นเนินกองทอดไปตามยาวจากหัวเกาะ ยื่นเป็นสันกว้างและทอดสู่กลางทะเล ยามน้ำลด เป็นความมหัศจรรย์มีลักษณะเหมือน “สันหลังมังกร” ทีโลดแล่นโล้คลื่นอยู่กลางทะเล…!!!
นายเดชรัฐเล่าให้ฟังว่า ทางจ.ตรังประกาศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนแห่งใหม่ของจ.ตรังเป็น “สันหลังมังกร” ที่มีอยู่จำนวน 6 ตัว อยู่ในท้องทะเลเขตพื้นที่ “อ.ปะเหลียน อ.หาดสำราญ และ อ.กันตัง”
เริ่มจาก พื้นที่ อ.ปะเหลียน ประกอบด้วย ตัวที่ 1 “สันหลังมังกรเหลือง” อยู่ในพื้นที่หมู่ 2 บ้านหยงสตาร์ ต.ท่าข้าม ตัวที่ 2 “สันหลังมังกรเกล็ดทองคำ” ตั้งอยู่ในหมู่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง ต.ท่าข้าม ตัวที่ 3 “สันหลังมังกรนิล” อยู่ในพื้นที่ 4 บ้านตะเสะ ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ตัวที่ 4 “สันหลังมังกรหยก” ตั้งอยู่หมู่ 1 บ้านเสียมไหม ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน ตัวที่ 5 “สันหลังมังกรทับทิมสยาม” อยู่ในพื้นที่ หมู่ 4 บ้านหาดทรายทอง ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน และตัวที่ 6 “สันหลังมังกรเผือก” อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านมดตะนอย ต.เกาะลิบง อ.กันตัง
“ลักษณะสันหลังมังกรแต่ละตัวอย่างน้อยต้องมีความยาวไม่ต่ำกว่า 1 กม. เป็นสันทรายที่อยู่กลางทะเลที่ถูกกระแสคลื่นซัดของ 2 ฝั่งของตัวสัน และจะมีเกาะ ไม่ว่าจะเป็นเกาะเล็ก หรือเกาะใหญ่ เป็นหัวมังกร และมีสันหลังเปรียบเสมือนตัวมังกร พญานาคใหญ่ หรืองูใหญ่เลื้อยอยู่กลางทะเลยามน้ำทะเลลดจะแตกต่างกับทะเลแหวกที่มีความยาวที่สั้นกว่าและไม่มีหัว”
สันหลังมังกรทั้ง 6 ตัว มีลักษณะความสวยงาม ความโดดเด่นและความมหัศจรรย์ ที่ธรรมชาติเสกสรรมาให้อย่างแตกต่าง และลงตัวในแต่ละแห่ง แยกเป็น…!!!
สันหลังมังกรเหลือง มีลักษณะเป็นสันทรายทอดยาวมองเห็นจากเกาะสะบัน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล มายังทะเลตรัง ความยาวประมาณ 1.5 กม.
สันหลังมังกรเกล็ดทองคำ มีลักษณะเป็นสันเปลือกหอยน้อยใหญ่ โผล่กลางทะเลสีเหลืองอร่ามคล้ายทอง ความแปลกที่คิดว่าจะเป็นเนินทราย แต่เป็นเนินที่เต็มไปด้วยเปลือกหอยทั้งเล็กและใหญ่มีความสวยงามมากเมื่อผิวของสันหลังมังกรกระทบกับแสงตะวัน ยามเช้าและยามพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบน้ำ แสงจะสาดส่องเป็นสีระยิบระยับสวยงามมาก มีความยาวประมาณ 2 กม.
สันหลังมังกรนิล ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลหาดสำราญ น้ำจากชายฝั่งประกอบไปด้วยบรรดาโคลน ดินดำจากวัชพืช จะถูกน้ำพัดปกคลุมผสมกับทรายและเปลือกหอย ทำให้มีลักษณะสีสันที่แปลกเมื่อพระอาทิตย์สาดส่อง จะมองเห็นสีนิล จึงตั้งชื่อเป็น ตัวสันหลัง
มังกรนิล มีความยาวกว่า 4 กม.
สันหลังมังกรหยก เป็นการผสมกันอย่างลงตัวระหว่างทรายเปลือกหอย และโคลน ปรากฏเป็นสันเนิน เส้นทางคดเคี้ยวเลี้ยววกเมื่อกระทบแสงอาทิตย์จะมองเห็นเป็นสีหยกเขียว มีความยาวกว่า 3 กม.
สันหลังมังกรทับทิมสยาม “ราชาสันหลังมังกรแห่งท้องทะเลอันดามัน” เป็นตัวที่มีสันหลังมังกรทั้งยาวและใหญ่ที่สุด อาจจะ
กล่าวได้ว่ายาวและใหญ่ที่สุดในโลก คือมีความยาวกว่า 5 กม.และกว้างกว่า 700 เมตร และที่สำคัญมีบริเวณพื้นของสันหลังมังกรหรือสันทราย นอกจากจะเต็มไปด้วยทรายแล้ว ยังมีปูชนิดหนึ่งที่ชาวบ้านเรียกว่าปูแดงขนาดเล็กนับล้านตัว คลานต้วมเตี้ยมเต็มบนเนินทราย ทำให้เป็นความมหัศจรรย์ที่คนที่ได้เข้าสัมผัสจะพบกับสิ่งมหัศจรรย์เหล่านี้
“สันหลังมังกรเผือก” มีลักษณะเป็นสันเนินทรายทอดยาวจากหัวเกาะบ้านมดตะนอยเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 1 กม. จะโผล่ขึ้นยามน้ำลด ลำตัวเป็นสันทรายสีขาว ชมพู และเทา เหมือนผิวช้างเผือก ทอดยาวความยาวกว่า 3 กม. ขาจะกางออกเหมือนมังกรจีน เมื่อโล้คลื่นและแสงอาทิตย์สาดส่องมองเห็นเหมือนมังกรสีเผือกแหวกว่ายอยู่กลางทะเล บางช่วงเนินสันหลังเมื่อได้รับการสัมผัสกับเท้า จะรู้สึกถึงความลุ่มลึกเหมือนผิวหิมะอีกด้วย”
พ่อเมืองตรังบอกอีกว่า เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ “สันหลังมังกร” ให้เป็นที่รู้จักของประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศให้แพร่หลายและกว้างขวาง ทางจ.ตรังจึงจัดให้มีกิจกรรมประกวดภาพถ่าย “สันหลังมังกรแห่งท้องทะเลตรัง” ขึ้น โดยกำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-31 มี.ค. 2559 ชิงรางวัลรวมกว่า 50,000 บาท พร้อมโล่รางวัล
“การประกวดแยกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทกรรมการตัดสิน รางวัลชนะเลิศ 10,000 บาท รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง 8,000 บาท รองชนะเลิศอันดับสอง 5,000 บาท รางวัลชมเชย 6 รางวัล รางวัลละ 3,000 บาท และประเภท Popular Vote รางวัลชนะเลิศ 5,000 บาท รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง 3,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับสอง 2,000 บาท โดยส่งภาพประกวดได้ที่ สำนักงานจังหวัดตรัง ศาลากลางจังหวัดตรัง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-31 มี.ค. หรือสอบถามรายละเอียดได้ในวันเวลาราชการ” นายเดชรัฐ แจงรายละเอียด
ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยว และช่างภาพทั้งมืออาชีพ และสมัครเล่น ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถเดินทางยังแหล่งท่องเที่ยว 6 สันหลังมังกร ได้ระหว่างที่พระจันทร์เต็มดวง ข้างขึ้น และข้างแรม ก่อนและหลัง 3 วัน โดยในพื้นที่ รวมถึงองค์การบริหารส่วนตำบล และ ทางอำเภอในพื้นที่จะอำนวยความสะดวกอย่างดี ทั้งข้อมูลสันหลังมังกร การเดินทางค่าพาหนะ อาหารและที่พัก อย่างเป็นกันเองเพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดภาพของความประทับใจ ที่จะได้ร่วมกันบันทึกภาพความมหัศจรรย์ของ “สันหลังมังกรทั้ง 6 ตัว” อย่างอิ่มเอมใจ และมีความสุข
กิจกรรมประกวดภาพถ่าย“สันหลังมังกรแห่งท้องทะเลตรัง” เป็นการประกาศให้ประชาชนทั่วประเทศ และทั่วโลก ได้รับรู้ว่า ณ วันนี้ จังหวัดตรังมีแหล่งท่องเที่ยวมหัศจรรย์ทางทะเลอีกแห่งหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเที่ยวชม ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของบรรดาเกาะแก่ง ปะการังสวยงาม ชายหาดเนียนนุ่ม รวมถึง “สันหลังมังกร” อีกหนึ่งมหัศจรรย์กลางทะเลตรัง นอกจาก “ถ้ำมรกต” ที่มีชื่อเสียงลือกระฉ่อนถึงความมหัศจรรย์สวยงามหนึ่งเดียวในท้องทะเลตรัง
โดย…จิรศักดิ์ จาตุพรพิพัฒน์