ในชีวิตของผู้หญิงหลายๆ คน จะต้องมีอาการปวดท้องน้อย หรือปวดในอุ้งเชิงกรานบ้าง บางทีปวดน้อย บางทีปวดมาก บางทีปวดนานๆ ครั้ง บางทีก็ปวดบ่อย บางทีก็ปวดก่อน ขณะมีหรือหลังมีประจำเดือน ฯลฯ ภายในอุ้งเชิงกรานก็มีอวัยวะไม่กี่อย่าง คือ อวัยวะสืบพันธ์ (ได้แก่ ช่องคลอด มดลูก รังไข่ และท่อรังไข่) ทางเดินปัสสาวะ (กระเพาะปัสสาวะ และท่อไต) ลำไส้ใหญ่ สำไส้เล็ก กล้ามเนื้อ หลอดเลือด การที่จะหาสาเหตุของอาการปวด บางทีก็เป็นเรื่องยุ่งยากในการค้นหา และบางอย่างก็เป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะถ้าปวดจนทำให้รู้สึกว่า มันทำให้ชีวิตประจำวันธรรมดาของเราเสียไป หรือมากจนสุดทนในบางคราว
ถ้าเป็นดังกล่าว สิ่งที่คุณผู้หญิงคงอยากทราบว่า อะไรที่ทำให้ปวดท้องน้อยได้บ้าง จะรู้ได้อย่างไรว่าเกิดจากอะไร และ แล้วจะรักษาอย่างไร
ลักษณะของการปวดท้องน้อย
อาการปวดจะแตกต่างกันไป จากสาเหตุที่แตกต่างกัน อาการปวดอาจเป็นพักๆ หรือตลอดเวลา อาจเกี่ยวข้องกับระยะของประจำเดือน การถ่ายอุจจาระ ถ่ายปัสสาวะ หลังจากรับประทานอาการ หรือระหว่าง หรือหลังจากมีเพศสัมพันธ์ บางทีก็ร้าวไปที่อวัยวะอื่น ซึ่งมักเป็นหลัง ก้นกบ ต้นขา เป็นต้น อาการปวดดังกล่าว อาจรบกวนการทำงาน การเคลื่อนไหว การนอน การมีเพศสัมพันธ์ และบางครั้งก็ปวดจนสุดที่จะทนได้ ถ้าเกิดขึ้นนานๆ ก็ทำให้เกิดความเครียด ร่างกายและจิตใจผิดปกติไป
ถ้าคุณสามารถอธิบายลักษณะการปวดได้ ว่า เป็นๆ หายๆ หรือตลอดเวลา ปวดตื้อๆ หรือแปลบๆ ปวดร้าวไปที่ไหน และเมื่อไรที่ คุณจะรู้สึกว่ามันปวดมากขึ้น เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ ให้แพทย์ช่วยวินิจฉัยได้ง่ายขึ้น
สรุป
การปวดท้องน้อย มีทั้งชนิดเฉียบพลัน และชนิดเรื้อรัง ส่วนใหญ่เกิดจากอวัยวะสืบพันธุ์ แต่ก็เกิดจากอวัยวะอื่นใกล้เคียง อาจจำเป็นต้องรักษาแบบฉุกเฉิน ซึ่งอาจจะเป็นโดยยาหรือผ่าตัด หรือแพทย์ทางเลือก แล้วแต่สถานการณ์ และสาเหตุ ซึ่งแพทย์ที่ชำนาญจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาแนะนำได้
ที่มา: นพ. ธีรศักดิ์ ธำรงธีระกุล
สูติ-นรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรักษาผู้มีบุตรยาก รพ.วิภาวดี
เข้าชม : 867
|