ค่ายผู้นำเกษตรสู่อาเซียนรุ่นที่๒
NFE leader camp for agricultural development
In Thailand to ASEAN (training the trainers)group 2 the northeastern cluster
20-24 เมษายน2557
ณ โรงแรมบุศยรินทร์ จังหวัด หนองคาย
สรุปการบรรยาย
กล่าวต้อนรับโดย นายประเสริฐ บุญเรือง
เลขาธิการสำนักงาน กศน.
วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2557
เชื่อว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีและสามารถเป็นต้นแบบในการพัฒนาสู่เกษตรกรอาเซียนโดยเฉพาะศูนย์ฝึกอาชีพเกษตรกรชายแดนที่อยากให้พัฒนาต่อเนื่อง
โครงการในครั้งนี้จะเป็นโครงการต่อเนื่องคือคัดเลือกคน 40 คนจากในวันนี้ไปศึกษาดูงานที่ประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย
ใน 100 คนจะตั้งใจอบรม รับฟัง ปฏิบัติตามที่วิทยากรขอความอนุเคราะห์ทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นอย่างดี
อยากให้วิทยากรให้เห็นใจคน กศน.ด้วยว่า การจัดดึกดื่นมากเกินไปอาจไม่ไหว
จากครั้งที่แล้วทุกคนให้ความเห็นว่าเป็นโครงการดีเยี่ยม เป็นประโยชน์ สามารถทำไปให้เกิดประโยชน์ต่อยอดได้ แต่ได้เสนอว่าเวลาที่อบรมแน่นไป มากเกินไป จึงขอทั้งสองฝ่ายคือ ผู้อบรมตั้งใจ และให้ผู้อบรมเห็นใจ
ให้นำเสนอสรุปในวันสุดท้ายแบบกระชับในเวลา 5 นาที โครงการนี้ได้รับนโยบายจากเลขาธิการรัฐมนตรีชาญยุทธ ได้กำหนดให้ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ เลขาธิการมูลนิธิฯ มารับผิดชอบ 2 สำนักงานคือ กศน. กับอาชีวศึกษา ดังนั้นจึงเกิดข้อเปรียบเทียบว่าคน กศน. กับ อาชีวะใครเอาจริงกว่ากัน อยากให้คน กศน. รักองค์กร ทำให้องค์กรเป็นชื่อเสียงอย่าให้เกิดจุดบอดขององค์กร ออกข้อสอบที่มีมาตรฐาน ว่ากราฟปกติหรือไม่ มีการประเมินที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
ขอฝากผู้เข้ารับการอบรมเรียนรู้ในวันนี้ เพราะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในครั้งนี้ คนนอกจัด วิทยากรมาจากอาเซียน และจากมูลนิธิฯ ซึ่งเป็นวิทยากรที่มีความรู้และประสบการณ์มากจึงอยากให้คน กศน.ใส่ใจและรับฟังนำไปปฏิบัติ ให้มีความตั้งใจ ทำให้ 5 วันเกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร อย่าให้พูดลับหลังว่า คน กศน. ให้ทำอะไรก็ไม่ทำ ต้องมีความตั้งใจในการอบรมอย่างดี เพื่อสร้างวิสัยทัศน์และทัศนคติในความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการในระดับสากล และทำกิจกรรมต่าง ๆ จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในการช่วยทำให้ประเทศชาติมีรายได้สูงขึ้น เป็นไปได้หรือไม่ในการเพิ่มค่าเฉลี่ยรายได้ประชากรต่อปี
ต้องสร้างความพร้อมของประเทศไทยให้มีความพร้อมมากเท่าที่ควร ฝากโครงการนี้เป็นโครงการที่มีค่าใช้จ่ายคุ้มค่าต่อการมาอบรมในครั้งนี้ จึงอยากให้ทุกคนที่ฟังอยู่แล้วเป็นประโยชน์สูงสุดและนำไปต่อยอดให้เกษตรกรในตำบล และอำเภอต่อไป
ขอให้โครงการดำเนินการด้วยคุณภาพ และประสบความสำเร็จ
ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
การทำโครงการต่อเนื่องจะยึดจากคนที่ได้รับการเรียนรู้ใน 2 รุ่นก่อน รุ่นละ 40 คน
การเสนอ กศน. กับอาชีวะ เนื่องจากเส้นทางคนที่อยู่นอกระบบการศึกษามีจำนวนมาก และมีหลายคนที่ออกไปทำงานมีทั้งเกษตร อุตสาหกรรม บริการ แต่ที่เลือกการเกษตรเพราะภาคการเกษตรของไทยมีความเข้มแข็ง
ข้อดีของกศน.คือ อยู่ในพื้นที่ และรู้จักคนอยู่แล้วแต่การบริหารจัดการการเกษตรยุคใหม่ต้องรู้เรื่องการเงิน การสร้างแบรนด์ทางการตลาด ทำอย่างไรที่มีคนเท่าเดิมแต่ให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น
ภาคการเกษตรมีเจ้าภาพหลายฝ่ายทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กศน.
การบริหารจัดการต้องเน้น คน เงิน เทคโนโลยี และทรัพยากรธรรมชาติ
Phase 2 จะทำ 3 เรื่อง
1. ฝึกคนเป็นพี่เลี้ยง ถ่ายทอดความรู้ภูมิปัญญาสู่อาเซียน
2. คัดเลือกโปรเจคซึ่งเป็นโครงการเกษตรที่ต้องให้เกษตรกรเข้มแข็ง
3. โอกาสในการปะทะความจริงกับประเทศในอาเซียนเช่น ปะทะการเกษตรที่เวียดนามและอินโดนีเซียเป็นต้น
หลักสูตรนี้เน้นแนวคิดอยู่ 2 เรื่อง
1. Respect ในฐานะเป็นผู้นำของ กศน.
2. Dignity เราทำงานด้วยศักดิ์ศรีของกศน.
การที่ได้มีโอกาสมารับใช้ของ กศน. เหมือนการพลิกปิรามิด เพราะ กศน.อยู่ข้างล่างสามารถกระจายความรู้ไปสู่ตำบล ท้องถิ่นได้ และในที่สุดจะช่วยประเทศของเรา