จากจำนวนสถิติของประชากรทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ภายในศตวรรษหน้าประชากรจะเพิ่มขึ้นอีกราว ๑ พันล้าน (ขณะนี้ทั่วโลกมีประชากรประมาณ ๕.๕ พันล้าน) และกว่าร้อยละ ๕๐ ของจำนวนที่เพิ่มขึ้น จะแออัดอยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น ประเทศแถบเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา
องค์การสหประชาชาติได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้กำหนดให้วันที่ ๑๑ กรกฎาคม เป็น วันประชากรโลก โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับประชากรของโลกเป็นผู้รับผิดชอบ ได้แก่ กองทุนเพื่อกิจกรรมประชากรแห่งสหประชาชาติ (United Nations Fund for Population Activities) หรือชื่อย่อว่า UNFPA ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงนิวยอร์ก กองทุนนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๒ โดยได้รับงบประมาณจากประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ ฟินแลนด์ เยอรมนี สวีเดน เดนมาร์ก อังกฤษ แคนาดาสวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี และออสเตรเลีย
วัตถุประสงค์ของการตั้งกองทุนฯ ก็เพื่อให้ความช่วยเหลือทุกประเทศในโลก ตลอดจนประเทศกำลังพัฒนาเกี่ยวกับการวางแผนประชากรและการวางแผนครอบครัว สร้างความตื่นตัวในเรื่องปัญหาประชากรและการหาวิธีแก้ไขโดยมีแนวคิดว่า
๑. การดูแลควบคุมอัตราการเพิ่มประชากร จะมีผลในการเฉลี่ยแบ่งปันอาหาร น้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน การศึกษา การจ้างงาน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ผู้ด้อยโอกาสได้ดีกว่าการปล่อยให้ประชากรเพิ่มสูงขึ้น
๒.การจำกัดหรือควบคุมอัตราการเพิ่มของประชากรให้สมดุลกับการพัฒนาของประเทศ จะช่วยลดความรุนแรงเกี่ยวกับการทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีผลกระทบต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
๓. การชะลอความแออัดในเมือง เพื่อไม่ให้ประชากรล้นเมืองเร็วเกินไป จะมีผลดีกว่าในแง่ของการพัฒนาทั้งในเขตเมืองและชนบท
๔. การให้การศึกษาแก่เด็กหญิงและสตรีอย่างทั่วถึง จะช่วยให้เด็กหญิงและสตรีรู้วิธีดูแลสุขภาพของตนเอง และสมาชิกครอบครัวดีขึ้น รวมทั้งช่วยให้การวางแผนครอบครัวดีขึ้น
๕. การมีครอบครัวที่มีขนาดเล็กลง จะช่วยให้การจัดการศึกษา การดูแลให้บริการด้านสุขอนามัย การพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
๖. การวางแผนครอบครัว ควรมีความหมายครอบคลุมถึงถึงการมีสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว นอกเหนือจากความหมายด้านคุมกำเนิดเพียงด้านเดียว
เป้าหมายของกองทุนฯ ได้แก่ การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นวิธีการใดๆ ก็ตามที่สอดคล้องกับแนวคิดต่างๆ ข้างต้น นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้ทุกประเทศรณรงค์ส่งเสริมสถานภาพของสตรีในทุกๆด้าน เพราะสตรีเป็นกุญแจสำคัญในการลดอัตราการเพิ่มของประชากรได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ในประเทศที่กำลังพัฒนา จะพบว่าอัตราการไม่รู้หนังสือของสตรีมีส่วนสัมพันธ์กันอย่างมากกับการมีลูกมาก เพราะทำให้ผู้หญิงขาดความรู้ความเข้าใจในการป้องกันตนเองจากการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ดังนั้นการพัฒนาที่ยั่งยืนจะไม่มีทางเป็นไปได้หากประชากรครึ่งหนึ่งของโลกที่เป็น ผู้หญิงไม่ได้รับการดูแลให้การศึกษาเท่ากับผู้ชายในทุกๆ ด้าน เพราะการศึกษาจะช่วยให้ผู้หญิงได้ดูแลตัวเอง และเป็นส่วนหนึ่งที่มีคุณภาพของสังคม
ในวันประชากรโลก หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดกลุ่มศึกษา จัดประชุมสัมนา ประกวดบทความ เรียงความ หรือจัดนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องประชากร เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงประโยชน์ของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้วยการควบคุมดูแลอัตราการเพิ่มประชากรโลกให้น้อยลง
ข้อมูลจาก www.lib.ru.ac.th