แต่ก่อนมียุวกาชาดตัวน้อย ที่แต่งกายมาโรงเรียนทุกๆวันพฤหัสบดี
แต่ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนเป็นเนตรนารี
พรุ่งนี้ เป็นวันยุวกาชาด ก็เลยเก็บสาระดีๆ
เพื่อมารู้จัก กับยุวกาชาดตัวน้อยกันให้มากขึ้นค่ะ
27 มกราคม ของทุกปี เป็นวันยุวกาชาดไทย
ยุวกาชาดไทยได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2465 ในชื่อ “กองอนุสภากาชาดสยาม” พระดำริของ]]จอมพลสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต]] อุปนายกผู้อำนวยการสภากาชาดสยามในขณะนั้นเป็นผู้ก่อตั้ง ได้ทรงมีพระดำริว่า "สภากาชาดของบางประเทศได้ตั้งสภากาชาดแผนกเด็กขึ้น ที่เรียกตามภาษาอังกฤษว่า Junior Red Cross รับเด็กชาย-หญิงอายุไม่เกิน 18 ปี เป็นสมาชิก โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะปลูกฝังเพาะนิสัยเด็กให้มีใจเมตตากรุณาต่อมนุษยชาติ ให้เป็นพลเมืองดี มุ่งทำประโยชน์แก่ชนหมู่มากนั้น มีผลดีจนประเทศอื่น ๆ ได้จัดตั้งขึ้นบ้างในหลายประเทศ สมควรที่สภากาชาดสยามจะได้จัดตั้งขึ้นบ้าง………"
ด้วยเหตุนี้กิจการยุวกาชาดไทยจึงได้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับยุวกาชาดทุกประเทศทั่วโลก คือ “Education for Peace, Good Health, Good Service and International Friendship”
หลัก 7 ประการของยุวกาชาด มีดังนี้
มนุษยธรรม กาชาดเกิดขึ้นมาจากความปราถนาที่จะนำความช่วยเหลือโดยมิเลือกปฏิบัติมาสู่ผู้บาดเจ็บในสนามรบ กาชาดเพียรพยายามทั้งในฐานะระหว่างประเทศและในระดับชาติเพื่อป้องกัน และบรรเทาทความทุกข์ทรมานของมนุษย์ไม่ว่าจะพบได้ในที่ใด ความมุ่งประสงค์ของกาชาดได้แก่การคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ และการประกันความเคารพนับถือต่อมนุษยชน กาชาดส่งเสริมความเข้าใจ มิตรภาพ ความร่วมมือระหว่างกัน และสันติภาพยั่งยืนระหว่างประชากรทั้งมวล
ความไม่ลำเอียง กาชาดไม่เลือกปฏิบัติในเรื่อ���สัญชาติ เชื้อชาติ ความเชื่อถือทางศาสนา ชั้น วรรณะ หรือความคิดเห็นทางการเมือง กาชาดเพียรพยายามอย่างเดียวที่จะบรรเทาความทุกข์ทรมาน โดยให้การปฏิบัติเป็นลำดับแรกต่อกรณีความทุกข์ยากที่เร่งด่วนที่สุด
ความเป็นกลาง เพื่อที่จะได้รับความไว้วางใจสืบต่อไปจากทุกฝ่าย กาชาดไม่อาจเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในการสู้รบ หรือเกี่ยวข้องไม่ว่าในเวลาในการขัดแย้ง ซึ่งมีลักษณะทางการเมือง เชื้อชาติ ศาสนา และลัทธินิยม
ความเป็นอิสระ กาชาดเป็นอิสระ สภากาชาดแม้จะมีส่วนช่วยเหลือในบริการด้านมนุษยธรรมของรัฐบาลของตน และอยู่ในบังคับแห่งกฏหมายของประเทศตน จะต้องธำรงความเป็นอิสระอยู่ต่อไป เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติตามหลักการกาชาดได้ทุกเวลา
บริการอาสาสมัคร กาชาดเป็นองค์การอาสาสมัครในการบรรเทาทุกข์ โดยไม่มีความปรารถนาผลประโยชน์ในประการใด ๆ
ความเป็นเอกภาพ ในประเทศพึงมีสภากาชาดได้เพียงแห่งเดียว สภากาชาดต้องเปิดให้กับคนทั่วไป สภากาชาดต้องปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมตลอดทั่วดินแดนของตน
ความเป็นสากล กาชาดเป็นสถาบันสากล ซึ่งสภากาชาดทั้งมวลสังกัดอยู่ในฐานะเท่าเทียมกัน และมีส่วนความรับผิดชอบและหน้าที่เท่าเทียมกันในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
แต่ก่อนมียุวกาชาดตัวน้อย ที่แต่งกายมาโรงเรียนทุกๆวันพฤหัสบดี
แต่ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนเป็นเนตรนารี
พรุ่งนี้ เป็นวันยุวกาชาด ก็เลยเก็บสาระดีๆ
เพื่อมารู้จัก กับยุวกาชาดตัวน้อยกันให้มากขึ้นค่ะ
27 มกราคม ของทุกปี เป็นวันยุวกาชาดไทย
ยุวกาชาดไทยได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2465 ในชื่อ “กองอนุสภากาชาดสยาม” พระดำริของ]]จอมพลสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต]] อุปนายกผู้อำนวยการสภากาชาดสยามในขณะนั้นเป็นผู้ก่อตั้ง ได้ทรงมีพระดำริว่า "สภากาชาดของบางประเทศได้ตั้งสภากาชาดแผนกเด็กขึ้น ที่เรียกตามภาษาอังกฤษว่า Junior Red Cross รับเด็กชาย-หญิงอายุไม่เกิน 18 ปี เป็นสมาชิก โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะปลูกฝังเพาะนิสัยเด็กให้มีใจเมตตากรุณาต่อมนุษยชาติ ให้เป็นพลเมืองดี มุ่งทำประโยชน์แก่ชนหมู่มากนั้น มีผลดีจนประเทศอื่น ๆ ได้จัดตั้งขึ้นบ้างในหลายประเทศ สมควรที่สภากาชาดสยามจะได้จัดตั้งขึ้นบ้าง………"
ด้วยเหตุนี้กิจการยุวกาชาดไทยจึงได้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับยุวกาชาดทุกประเทศทั่วโลก คือ “Education for Peace, Good Health, Good Service and International Friendship”
หลัก 7 ประการของยุวกาชาด มีดังนี้
มนุษยธรรม กาชาดเกิดขึ้นมาจากความปราถนาที่จะนำความช่วยเหลือโดยมิเลือกปฏิบัติมาสู่ผู้บาดเจ็บในสนามรบ กาชาดเพียรพยายามทั้งในฐานะระหว่างประเทศและในระดับชาติเพื่อป้องกัน และบรรเทาทความทุกข์ทรมานของมนุษย์ไม่ว่าจะพบได้ในที่ใด ความมุ่งประสงค์ของกาชาดได้แก่การคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ และการประกันความเคารพนับถือต่อมนุษยชน กาชาดส่งเสริมความเข้าใจ มิตรภาพ ความร่วมมือระหว่างกัน และสันติภาพยั่งยืนระหว่างประชากรทั้งมวล
ความไม่ลำเอียง กาชาดไม่เลือกปฏิบัติในเรื่อ���สัญชาติ เชื้อชาติ ความเชื่อถือทางศาสนา ชั้น วรรณะ หรือความคิดเห็นทางการเมือง กาชาดเพียรพยายามอย่างเดียวที่จะบรรเทาความทุกข์ทรมาน โดยให้การปฏิบัติเป็นลำดับแรกต่อกรณีความทุกข์ยากที่เร่งด่วนที่สุด
ความเป็นกลาง เพื่อที่จะได้รับความไว้วางใจสืบต่อไปจากทุกฝ่าย กาชาดไม่อาจเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในการสู้รบ หรือเกี่ยวข้องไม่ว่าในเวลาในการขัดแย้ง ซึ่งมีลักษณะทางการเมือง เชื้อชาติ ศาสนา และลัทธินิยม
ความเป็นอิสระ กาชาดเป็นอิสระ สภากาชาดแม้จะมีส่วนช่วยเหลือในบริการด้านมนุษยธรรมของรัฐบาลของตน และอยู่ในบังคับแห่งกฏหมายของประเทศตน จะต้องธำรงความเป็นอิสระอยู่ต่อไป เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติตามหลักการกาชาดได้ทุกเวลา
บริการอาสาสมัคร กาชาดเป็นองค์การอาสาสมัครในการบรรเทาทุกข์ โดยไม่มีความปรารถนาผลประโยชน์ในประการใด ๆ
ความเป็นเอกภาพ ในประเทศพึงมีสภากาชาดได้เพียงแห่งเดียว สภากาชาดต้องเปิดให้กับคนทั่วไป สภากาชาดต้องปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมตลอดทั่วดินแดนของตน
ความเป็นสากล กาชาดเป็นสถาบันสากล ซึ่งสภากาชาดทั้งมวลสังกัดอยู่ในฐานะเท่าเทียมกัน และมีส่วนความรับผิดชอบและหน้าที่เท่าเทียมกันในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ที่มา:http://www.panyathai.or.th
เข้าชม : 2069
|