พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562
การเตรียมการ
การเตรียมการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นวันที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีขึ้น โดยเมื่อวันที่ 26 มกราคม มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรก โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานการประชุมและดำรงตำแหน่งองค์ประธานที่ปรึกษา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธาน ชีพ จุลมนต์ ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย เปรม ติณสูลานนท์ เป็นที่ปรึกษาและกรรมการ มีการตั้งคณะกรรมการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยในฝ่ายประชาสัมพันธ์ มี พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และพลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็น เลขานุการฝ่ายจัดพิธีการ มี ศาสตราจารย์กิตติคุณวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และนางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเลขานุการ
ฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจร มี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และพลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นเลขานุการ พลตำรวจเอก ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ประธานอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการการรักษาความปลอดภัยและการจราจร เป็น พลตำรวจโท สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข และ พลโท ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ เป็น รองประธานอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการการรักษาความปลอดภัยและการจราจร
ฝ่ายจัดทำน้ำอภิเษก มี นายกองเอก ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานคณะอนุกรรมการ
ฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้งบประมาณ มี ศาสตราภิชานสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และนางประภาศรี บุญวิเศษ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเลขานุการ
ฝ่ายโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ มี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ เช่น บุษยา มาทแล็ง พรพิพัฒน์ เบญญศรี อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ลือชัย รุดดิษฐ์ พสุ โลหารชุน ณัฐ อินทรเจริญ จักรทิพย์ ชัยจินดา ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย
ฝ่ายจัดการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร มี พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นที่ปรึกษาและอนุกรรมการ และนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานคณะอนุกรรมการ
ริ้วขบวน
ในพระราชพิธีอย่างเป็นทางการจะมี 3 ริ้วขบวน ดังนี้
ริ้วขบวนที่ 1 อัญเชิญพระสุพรรณบัฏ พระราชลัญจกรประจำรัชกาล และดวงพระราชสมภพ จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 3 พฤษภาคม โดยใช้กำลังพลทั้งหมด 133 นาย
ริ้วขบวนที่ 2 อัญเชิญสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน มายังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อประกาศพระองค์เป็นศาสนูปถัมภก และถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิที่ปราสาทพระเทพบิดร ในวันที่ 4 พฤษภาคม โดยใช้กำลังพลทั้งหมด 234 นาย
ริ้วขบวนที่ 3 เป็นริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารค อัญเชิญสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร วันที่ 5 พฤษภาคม โดยใช้กำลังพลทั้งหมด 1,368 นาย
ตราสัญลักษณ์พระราชพิธี
ในวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวแบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษกในครั้งนี้ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาปรุงแบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษกด้วยพระองค์เอง และพระราชทานแบบตราสัญลักษณ์พร้อมความหมายเพื่อใช้ในการเผยแพร่งานในครั้งนี้ และยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแบบเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ โดยด้านหน้าเป็นตราสัญลักษณ์ ส่วนด้านหลังมีคำว่า "พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. ๒๕๖๒" ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดทำเข็มที่ระลึกขึ้นเพื่อจำหน่าย เพื่อให้ประชาชนได้อัญเชิญไปประดับในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และรายได้จากการจำหน่ายเข็มที่ระลึกทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย รัฐบาลจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยต่อไป[16]
การเตรียมสถานที่และปรับปรุงภูมิทัศน์
วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562 กิจกรรมจิตอาสาปรับปรุงภูมิทัศน์คลองคูเมืองเดิม ถนนอัษฎางค์ และถนนบำรุงเมือง มีหน่วยพระราชทานจิตอาสา ประชาชนจิตอาสา เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร กรมป่าไม้ กรมราชทัณฑ์ สมาคมรุกขกรรมไทย และเครือข่ายต้นไม้ในเมืองกว่า 400 คน ระดมอุปกรณ์ เครื่องมือ ไปตัดแต่งกิ่งก้าน และฟื้นฟูต้นไม้ใหญ่ ให้มีทรงพุ่มสวยงาม ตัดกิ่งก้านต้นไม้ตามหลักรุกขกรรม เพื่อให้ต้นไม้ริมคลองคูเมืองเดิมทั้ง 2 ฝั่ง ตั้งแต่หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ไปถึงสะพานช้างโรงสี
พิธีทำน้ำอภิเษกในแต่ละจังหวัด
พิธีทำน้ำอภิเษกในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพมหานคร มีพิธีการในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2562
เวลา 15:00 น. ผู้ร่วมพิธีพร้อมกัน ณ พระอารามหลวงประจำจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดจุดธูปเทียนที่หน้าเครื่องสังเวยบูชาฤกษ์
เวลา 17:00 น. ประธานสงฆ์ประกาศชุมนุมเทวดาในการพิธีทำน้ำอภิเษก ประธานสงฆ์เจิมเทียนชัย เทียนมงคลและ เทียนพุทธาภิเษก ประธานในพิธีถวายเทียนชนวนแด่ประธานสงฆ์
เวลา 17:10 - 22:00 น. ประธานสงฆ์จุดเทียนชัยและเทียนพุทธาภิเษก พระสงฆ์ 30 รูป เจริญพระพุทธมนต์คาถาจุดเทียนชัย โดยก่อนที่พระสงฆ์จะเจริญพระพุทธมนต์ถึงบทไตรสรณคมน์ (พุทธัง) เจ้าหน้าที่จะเชิญประธานพิธีจุดเทียนมงคล เทียนหน้าพระ และเทียนนวหรคุณ เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว ได้นิมนต์พระสงฆ์ลงจากอาสน์สงฆ์ ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่นิมนต์พระสงฆ์เถราจารย์ และพระสวดภาณวารขึ้นอาสน์สงฆ์ ประธานพิธีจุดเทียนทอง เทียนเงิน และธูปเทียนหน้าเตียงพระสวดภาณวาร เจ้าหน้าที่อาราธนาพระสงฆ์สวดภารวาร พระสงฆ์เถราจารย์ และพระสงฆ์สวดภารวาร จะได้ผลัดเปลี่ยนกันนั่งเจริญจิตภาวนาอธิษฐานจิต และสวดภาวนาต่อไปจนถึงเวลาอันสมควร
พิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษกของแต่ละจังหวัด
พิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษกของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศยกเว้นกรุงเทพมหานคร มีพิธีการในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2562
เวลา 09:00 น. ผู้ร่วมพิธีพร้อมกัน ณ บริเวณประกอบพิธี ผู้ว่าราชการจังหวัดจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
เวลา 10:00 น. พระสงฆ์เถราจารย์ประธานสงฆ์ดับเทียนชัย พระสงฆ์ 30 รูป เจิญพระพุทธมนต์คาถาดับเทียนชัย เจ้าหน้าที่ประโคมฆ้องชัย ดุริยางค์บรรเลงเพลง ประธานสงฆ์เจือน้ำพระพุทธมนต์ในน้ำอภิเษก และมอบให้ประธานพิธี ประธานพิธีตักน้ำอภิเษกใส่คนโท เพื่อเตรียมเชิญไปกระทรวงมหาดไทย
เวลา 12:00 น. ตั้งพิธีบายศรีเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก บัณฑิตหรือโหรทำพีธีบายศรี และแว่นเวียนเทียน แว่นที่ 1 และส่งให้ประธานพิธี ประธานพิธีรับแว่นเวียนเทียนจากบัณฑิตหรือโหรแล้ววักแว่นที่จุดเทียนแล้วเข้าหาตัว 3 ครั้ง แล้วใช้มือขวาโบกควันออก แล้วส่งต่อให้คนที่อยู่ซ้ายมือ เวียนไปจนครบ 3 ครบ เมื่อครบแล้วคนสุดท้ายส่งให้บัณฑิตหรือโหร ผู้ทำหน้าที่เบิกแว่นเทียน เป็นอันเสร็จพิธี
พิธีเชิญน้ำอภิเษกของแต่ละจังหวัดมารวมที่กระทรวงมหาดไทย
พิธีเชิญน้ำอภิเษกของแต่ละจังหวัดมารวมเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงมหาดไทย มีพิธีการในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2562
เวลา 07:30 น. ปลัดกระทรวงมหาดไทยเปิดกรวยกระทงดอกไม้ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายในสถานที่เก็บรักษาคนโทน้ำอภิเษก ณ ห้องดอกแก้ว ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย
เวลา 07:50 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ เชิญน้ำอภิเษกทยอยเดินทางมาถึงกระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่เชิญคนโทลงจากรถ โดยมีผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย นำโดยปลัดกระทรวงมหาดไทยตั้งแถวรอรับขบวน จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่เชิญคนโทน้ำอภิเษกขึ้นไปยังห้องดอกแก้ว ถวายความเคารพพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นเจ้าหน้าที่เชิญคนโทส่งต่อให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อวางลงในจุด ถวายความเคารพพระฉายาลักษณ์ และเดินทางกลับ
อ้างอิงจาก : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เข้าชม : 496
|