เปิดตัวหนังสือ ''คิง ภูมิพลอดุลยเดช : อะไลฟ์''ส เวิร์ส'' ฉบับภาษาอังกฤษ เฉลิมพระเกียรติเสนอเรื่องราวพระราชประวัติ-พระราชกรณียกิจ และข้อมูลเชิงลึกที่ไม่ค่อยมีการนำเสนอ ด้านครม.อนุมัติกว่า 117 ล้านบาท จัดงาน 3-9 ธ.ค.นี้ ส่วนช่วงพระองค์เสด็จฯ ออกมุขเด็จ เปิดให้พสกนิกรได้ชื่นชมพระบารมีใกล้ชิดตลอดเส้นทาง ขณะที่ สำนักพระราชวัง จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ แสดงแสง เสียงและสื่อผสม “วัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษา มหาราชา” ฉายภาพยนตร์พาโนรามาสื่อผสม “84 ปี แห่งความเรืองรองของกรุงรัตนโกสินทร์” และเปิดชม-ถ่ายภาพพระบรมมหาราชวังในช่วงกลางคืน ขณะที่ ก.วัฒนธรรม เชิญอาเซียนจัดการแสดงมหกรรมรามายณะนานาชาติ 8 ประเทศ
ณ ห้องมณฑาทิพย์ 1 โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 พ.ย. นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษากองบรรณาธิการ จัดทำหนังสือ “คิง ภูมิพลอดุลยเดช : อะไลฟ์’ส เวิร์ก” (King Bhumibol Adulyadej:A Life’s Work) เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ ซึ่งจัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ โดยสำนักพิมพ์นานาชาติ เอดิซิยองส์ดิดิเยร์ มิลเยต์ จำนวน 384 หน้า นำเสนอเรื่องราวพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าและน่าสนใจที่ไม่ค่อยมีการกล่าวถึงในสื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ, การสืบราชสันตติวงศ์, คณะองคมนตรี และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เขียนโดยนายนิโคลัส กรอสแมน บรรณาธิการหนังสือ Chronicle of Thailand:Headline News Since 1946 และนายโดมินิค ฟาวเดอร์ อดีตบรรณาธิการเรียบเรียงหนังสือ The King of Thailand in World Focus
นายอานันท์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคนไทยไม่สามารถอธิบายประวัติศาสตร์ไทยให้ต่างชาติเข้าใจ มีเพียงหนังสือแนะนำการท่องเที่ยวเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถอธิบายส่วนสำคัญของวัฒนธรรมของชาติที่ถูกโยงเข้ากับประวัติศาสตร์ว่าเมืองไทยเป็นอย่างไร ขาดมากก็คือสิ่งที่ทำให้คนไทยอยู่ได้ทุกวันนี้ก็คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ผ่านมาหลายราชวงศ์ หลายกรุง แต่เราไม่ค่อยมีการเขียนหนังสือแนวนี้ ทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หลัง ๆ นี้คนไทยตื่นตัว มีการพูดถึงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์กันมาก
“หนังสือเล่มนี้จะพูดความจริง ในทุก ๆเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้เป็น “จุดอ่อน” เรื่องที่มีการถกเถียงโต้แย้งในสังคมไทย เราพูดถึงทั้ง 2 ด้าน ไม่หนีข้อโต้แย้งและตัดสินใจแทน แต่ให้อยู่กับข้อเท็จจริง นอกจากจะเพิ่มเติมความรู้แล้ว ยังเป็นการเติมช่องว่างของการ “มีสติ” ที่ขาดอยู่ในสังคมไทยด้วย หลังทำงานกันขันแข็ง 1 ปีกว่า ได้รวบรวมคนที่มีความรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีข้อมูลอ้างอิงได้ และตรวจสอบความถูกต้อง ดูว่าเนื้อหามีความสมดุล ไม่มีการเอนเอียง หวังว่าผู้อ่านจะได้รับทราบข้อมูลที่ไม่เคยรู้มาก่อน หนังสือเล่มนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับสังคม” นายอานันท์ กล่าว
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.อนุมัติงบประมาณในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 117,722,384 บาท ทั้งนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล งานมหรสพสมโภช และการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธาน จัดงานวันที่ 3-9 ธ.ค.นี้ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และพื้นที่โดยรอบ มีกิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล งานมหรสพสมโภชเฉลิมพระเกียรติ งานจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การจัดแสดงสินค้า โครงการหลวง โครงการส่วนพระองค์และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 5 ธ.ค. นี้การเสด็จออกมหาสมาคมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เวลา 10.30 น. ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เหล่าพสกนิกรชาวไทยสามารถร่วมรับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีพระองค์ท่านได้ตลอดเส้นทางการเสด็จฯ ตั้งแต่รพ.ศิริราช ถึงพระบรมมหาราชวังได้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป โดยจะมีการติดตั้งจอโทรทัศน์ถ่ายทอดการเสด็จพระราชดำเนินตั้งแต่ รพ.ศิริราชตลอดเส้นทางถึงพระบรมมหาราชวัง เว้นช่วงสะพานพระปิ่นเกล้า
วันเดียวกัน ณ อรรถวิจารณ์ศาลา ในพระบรมมหาราชวัง นายรัตนาวุธ วัชโรทัยที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สำนักพระราชวัง กล่าวถึงรายละเอียดการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติว่า สำนักพระราชวังร่วมมือกับรัฐบาลจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติที่มีความยิ่งใหญ่และพิเศษมากมาย และคาดว่าสามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ประชาชนที่เข้ามาชมกิจกรรมต่าง ๆ ได้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน โดยกิจกรรมดังกล่าว ได้แก่ การแสดงแสง เสียงและสื่อผสม “วัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษา มหาราชา” ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง ฝั่งพระบรมมหาราชวัง ระหว่างวันที่ 3-9 ธ.ค.นี้ วันละ 1 รอบ เวลาประมาณ 19.00-20.30 น. ความยาว 90 นาที เป็นการแสดงที่ใช้นักแสดงกว่า 150 คน บนเวทีขนาด 60 เมตร โดยนำเรื่องราวเล่าขานร้อยเรียงประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างเมือง
กิจกรรมที่สอง ได้แก่ การจัดฉายภาพยนตร์พาโนรามาสื่อผสมเฉลิมพระเกียรติ “84 ปี แห่งความเรืองรองของกรุงรัตนโกสินทร์” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยในการใช้เทคนิค ทรีดี อิลลูชั่น ไลฟ์ วอลล์ แสดงภาพเคลื่อนไหวบนฉากของกำแพง พร้อมมีการแสดงประกอบตลอดแนวกำแพงพระบรมมหาราชวังความยาว 200 เมตร ด้านถนนพระลาน โดยการนำเสนอเกี่ยวกับภาพฝาผนังเรื่อง รามเกียรติ์ ที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้นจะมีการแสดงโขนประกอบด้วย มีความยาว 20 นาที มีการจัดฉายอย่างต่อเนื่องวันที่ 3-9 ธ.ค.นี้ เวลา 19.00-22.00 น. สำหรับกิจกรรมสุดท้าย ได้แก่ การเปิดให้ประชาชนเข้าชมและถ่ายภาพบรรยากาศอันงดงามของพระบรมมหาราชวังในช่วงกลางคืน ระหว่างวันที่ 5-9 ธ.ค.นี้ เวลา 18.00-24.00 น. โดยทุกกิจกรรมประชาชนสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
ที่ลานอินฟินิซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ทำดีให้พ่อดู เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ตอน ทศพิธราชธรรม ธรรมของพระราชา ที่ปวงประชาน้อมนำมาปฏิบัติได้” โดยเชิญชวนประชาชนคนไทยร่วมกัน คิดดี ทำดี นำหลักทศพิธราชธรรม 10 ประการ มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันสู่การทำความดีตามรอยเบื้องพระยุคลบาท พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติเรื่องทางแยกวัดใจ โดย 3 ผู้กำกับชื่อดัง หมู-ชยนพ บุญประกอบ จิม-โสภณ ศักดาพิสิษฏ์ และต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร นำแสดงโดย เต้-ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ และมิกกี้-อิสรีย์ ทองธรรม เริ่มฉายวันที่ 15-28 ธ.ค. นอกจากนี้ยังเชิญชวนให้ทุกคนแชร์ความดีผ่าน www.iwilldoforking.com เพื่อลุ้นรับบัตรชมภาพยนตร์ฟรี 2 ที่นั่งด้วย
ที่โรงละครแห่งชาติ นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) แถลงข่าวการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า วธ.ได้ร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนและนานาชาติจัดการแสดงมหกรรมรามายณะนานาชาติขึ้น เพื่อส่งเสริมความเข้าใจด้านศิลปวัฒนธรรมร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและนานาชาติ รวม 8 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ ลาว สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย และอินเดีย โดยนำมหากาพย์เรื่อง รามายณะ หรือที่ชาวไทยรู้จักในชื่อ รามเกียรติ์ มาร้อยเรียงจัดเป็นมหกรรมการแสดงที่ผสมผสาน และสามารถสัมผัสได้กับอรรถรสและคุณค่าทางวรรณกรรม ดนตรี และนาฏศิลป์ ตลอดจนคติสอนใจจากวรรณกรรมอันทรงคุณค่า
นางสุกุมล กล่าวต่อว่า ในโอกาสสำคัญนี้ วธ.ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการแสดงรามายณะนานาชาติ และทรงระนาดเอกเพลงโหมโรงโขนร่วมกับวงดนตรีบ้านปลายเนินด้วย โดยการแสดงเฉลิมพระเกียรติได้กำหนดจัดแสดงระหว่างวันที่ 5 ธ.ค. รอบ 16.00 น. วันที่ 6–7 ธ.ค. รอบ 19.00 น. และวันที่ 9 ธ.ค. รอบ 13.00 น.และรอบเสด็จ 20.00 น. ที่โรงละครแห่งชาติ โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมการแสดงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ อดีตปลัด วธ. กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทำหนังสือเชิญประเทศสมาชิก 10 ประเทศ และได้รับการตอบรับ 7 ประเทศเข้าร่วม แต่ที่น่าสนใจคือประเทศฟิลิปปินส์ที่ตอบรับเข้าร่วมการแสดงด้วย เนื่องจากได้ค้นพบเป็นครั้งแรกว่ามีชาวหมู่เกาะแห่งหนึ่งมีการแสดงรามายณะจึงเข้าร่วมแสดงเป็นครั้งแรกด้วย รวมทั้งได้เชิญประเทศอินเดีย ต้นกำเนิดรามายณะ เข้าร่วมอีกด้วย
ด้านนางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า สวธ.ได้จัดกิจกรรมหุ่นไทย…หัวใจรักชาติ มหกรรมหุ่นไทยสำหรับเยาวชนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 2 ธ.ค. หอประชุมเล็กศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยเปิดโอกาสให้เด็กด้อยโอกาสจากบ้านเมตตา บ้านปากเกร็ด บ้านราชวิถี บ้านนนทภูมิ 600 คน เข้าชมการแสดง นอกจากนี้ยังจัดทำสื่อออนไลน์จุดเทียนชัยถวายพระพรในรูปแบบภาพเสมือนจริง 3 มิติผ่านตัวละครอวตาร ผ่านเว็บไซต์ www.culture.go.th พร้อมจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติภาพยนตร์ส่วนพระองค์ด้วย.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554