ประกาศผลรางวัล “รักลูกอวอร์ด ครั้งที่ 8” ที่สุดของหนังสือดี...เพื่อเด็กไทย
The award "Rakluke Award 8th" prize competition books for children and youth. Held to glorify the creator of literature for children. To produce a book writer and illustrator.
ในที่สุดรางวัล “รักลูกอวอร์ด ครั้งที่ 8” รางวัลประกวดหนังสือสำหรับเด็กและเยาวชน ที่จัดขึ้นเพื่อเชิดชูผู้สร้างสรรค์วรรณกรรมสำหรับเด็ก เพื่อให้ผู้ผลิตหนังสือ ทั้งนักเขียน นักวาดภาพประกอบ และสำนักพิมพ์ ได้มีกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานดีๆ มีคุณภาพ ก็ได้ประกาศผลอย่างเป็นทางการแล้ว
เสียงจากคณะกรรมการตัดสิน
นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ประธานกรรมการตัดสินหนังสือสำหรับเด็กวัย 13 ปีขึ้นไปถึงวัยรุ่น กล่าวว่า “ภาพ รวม หนังสือปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ร้อยละ 90 อ่านสนุก อ่านเพลิน สำนวนภาษาไทยดี จับใจ มีศิลปะมากขึ้น เนื้อหาสาระดี น่าอ่าน”
ด้าน อ.ชนิศา ชงัดเวช อาจารย์ประจำคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะกรรมการตัดสินหนังสือสำหรับเด็กวัย 0-3 ปี กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีแรกที่เราให้ รางวัล “ภาพ ประกอบดีเด่น” การมีรางวัลนี้ขึ้นมาเพื่อให้เห็นว่าภาพประกอบมีความสำคัญมาก เท่าๆ กับเนื้อเรื่อง เพราะภาพจะใช้ในการสื่อสารเรื่องราวต่างๆ ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ เกิดจินตนาการ ความคิด จะเห็นได้จากหนังสือบางเล่มที่มีแต่ภาพ ไม่มีตัวหนังสือเลย แต่ภาพก็สามารถบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เราเข้าใจได้ การตัดสินภาพประกอบดีเด่น นอกจากจะตัดสินที่ภาพมีความสวยงาม เหมาะสม มีทักษะ ฝีมือการวาดที่โดดเด่นแล้ว ยังดูในเรื่องการออกแบบรูปเล่มหนังสือ การจัดวางตัวหนังสือ การพิมพ์หนังสือที่สอดคล้องกันกับภาพและเนื้อเรื่องด้วย หนังสือเรื่อง “สักวันหนูจะโต” ที่ได้รับรางวัลภาพประกอบดีเด่นในปีนี้ นอกจากจะมีความโดดเด่นในเรื่องทักษะการวาด การออกแบบที่เทียบชั้นระดับสากลแล้ว ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอภาพก็โดดเด่นมากด้วย เพราะเป็นหนังสือที่มีลูกเล่น มีการซ่อนเรื่องราว มีรูปแบบเป็น flipbook เปิดปิดได้ ซึ่งผู้ออกแบบได้ออกแบบไว้อย่างฉลาด สร้างสรรค์ และแนบเนียนมาก”
“หนังสือ” นอกจากจะให้ความรู้แล้ว ยังช่วยสร้าง “ความรักและเคารพผู้อื่น” ด้วย
คุณจิตกร บุษบา นักเขียน และนักวิจารณ์วรรณกรรม หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินหนังสือสำหรับเด็กวัย 13 ปีขึ้นไปถึงวัยรุ่น กล่าวว่า “หนังสือที่ดีต้องผสมผสานกันระหว่างสาระและศิลปะได้อย่างลงตัว ที่สำคัญต้องมีส่วนในการหล่อหลอมสำนึกเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และมองถึงสังคมส่วนรวมด้วย เราในฐานะกรรมการตัดสินจึงต้องพิจารณาว่าจะคัดเลือกหนังสือที่มีสาระจูงใจ เด็ก หรือตามใจเด็ก ซึ่งนับว่าหนังสือที่ผ่านการพิจารณาในปีนี้มีคุณภาพมาก เพราะให้สาระค่อนข้างบริบูรณ์ในทุกๆ ด้าน เหมาะที่จะแนะนำให้เด็กๆ อ่าน”
นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร ประธานโครงการดำเนินงานรักลูกอวอร์ด กล่าวว่า “วรรณกรรมคือเครื่องมือที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งที่จะนำไปสู่การสร้างใจที่รักและ เคารพ ผู้อื่น วรรณกรรมดีๆ สามารถนำไปสู่ฐานคิดดีๆ ซึ่งฐานคิดที่ดีนั้นจะช่วยพัฒนาให้เราเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้ ฉะนั้นพ่อแม่ควรปลูกฝังให้ลูกอ่านหนังสือตั้งแต่เล็กๆ เพื่อฝึกให้เด็กคิดเป็น วิเคราะห์เป็น รวมทั้งซึมซับความรู้สึกและแง่คิดต่างๆ ที่แฝงอยู่ในหนังสือ ในส่วนผู้สร้างสรรค์หนังสือเอง ก็ต้องช่วยกันผลิตหนังสือที่ช่วยพัฒนาผู้คนในสังคม เพื่อให้เกิดผู้อ่านที่แข็งแรง วัฒนธรรมการอ่านที่แข็งแรง นำไปสู่สังคมที่เติบโตอย่างแข็งแรงได้ โดยรักลูกอวอร์ดพร้อมที่จะเป็นผู้สนับสนุนผลงานดีๆ ของผู้ผลิตหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นสำนักพิมพ์ นักเขียน และนักวาดภาพประกอบ ได้มีกำลังใจในการผลิตผลงานที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป ควบคู่ไปกับการกระตุ้นและผลักดันให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของการอ่าน เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่ง การอ่านอย่างแท้จริง”
ปีนี้มีผลงานหนังสือคุณภาพที่ควรประกาศยกย่อง ทั้งสิ้น 18 เล่ม ได้แก่
ประเภทหนังสือสำหรับเด็กวัย 0-3 ปี (ประเภท Picture Book) รางวัลดีเด่น ได้แก่ วันเกิดแสนสนุก จากสำนักพิมพ์ห้องเรียน รางวัลชมเชย ได้แก่ ผ้าห่มกลายร่าง และ ดุ๊กดิ๊ก จากสำนักพิมพ์พาส เอ็ดดูเคชั่น
ประเภทหนังสือสำหรับเด็กวัย 3-6 ปี (ประเภท Picture Book) รางวัลดีเด่น ได้แก่ ผู้กล้าแห่งป่าสีสัน จากสำนักพิมพ์ห้องเรียน รางวัลชมเชย ได้แก่ สักวันหนูจะโต และ ระเกะระกะ จากสำนักพิมพ์ห้องเรียน
ประเภทหนังสือสำหรับเด็กวัย 7-9 ปี (ประเภท Picture Book) รางวัลดีเด่น ได้แก่ หัวใจแปลงร่าง จากสำนักพิมพ์พาส เอ็ดดูเคชั่น รางวัลชมเชย ได้แก่ ดาวดวงนั้นของฉันคนเดียว จากสำนักพิมพ์พาส เอ็ดดูเคชั่น และ เมืองใหม่ในฝัน จากสำนักพิมพ์โลกหนังสือ
ประเภทหนังสือสำหรับเด็กวัย 10-12 ปี (ประเภท Story Book) รางวัลชมเชย ได้แก่ ลอยลม จากสำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก
ประเภทหนังสือสำหรับเด็กวัย 10-12 ปี (ประเภท Comic Book) รางวัลดีเด่น ได้แก่ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรยิปซี จากสำนักพิมพ์ Me-D Comic รางวัลชมเชย ได้แก่ โรงเรียนเม็ดกวยจี๊ เทอม 4 จากสำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก และ ดินแดนแสนประหลาด ตอน นครสินบน จากสำนักพิมพ์พาส เอ็ดดูเคชั่น
ประเภทหนังสือสำหรับเด็กวัย 13 ปีขึ้นไปถึงวัยรุ่น (ประเภทสารคดี) รางวัลดีเด่น ได้แก่ โตเกียวจิน ความสุขรายวันของคนคลานช้า จากแพรวสำนักพิมพ์ รางวัลชมเชย ได้แก่ วิชาบอล 001 จากสำนักพิมพ์วงกลม
ประเภทหนังสือสำหรับเด็กวัย 13 ปีขึ้นไปถึงวัยรุ่น (ประเภทบันเทิงคดี) รางวัลดีเด่น ได้แก่ โรงเรียนริมทะเล จากสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ รางวัลชมเชย ได้แก่ บ้านไม้ชายคลอง จากสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์
ประเภทหนังสือสำหรับเด็กวัย 13 ปีขึ้นไปถึงวัยรุ่น (ประเภทความเรียงเชิงทัศนะ) รางวัลดีเด่น ได้แก่ ความสุขผลิใบในทุกเช้า จากแพรวสำนักพิมพ์
รางวัลภาพประกอบดีเด่น หนังสือสำหรับเด็กวัย 0-6 ปี ได้แก่ สักวันหนูจะโต จากสำนักพิมพ์ห้องเรียน
ที่มา: http://www.bangkokreadforlife.com/index.php/newsaevent/news-and-event/310--8
เข้าชม : 3124
|