สภาพทั่วไปของจังหวัดตรัง
|
ที่ตั้งและอาณาเขต |
จังหวัดตรังอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย มีพื้นที่เลียบชายฝั่งทะเลตะวันตกติดกับมหาสมุทรอินเดีย ยาวตลอดแนวเขตจังหวัดถึง 119 กม. ประมาณเส้นรุ้งที่ 7 องศา 31 ลิปดาเหนือ และเส้นแวงที่ 99 องศา 38 ลิปดาตะวันออก ห่างจากกรุงเทพฯ ตามเส้นทางถนนเพชรเกษม 828 กิโลเมตร เนื้อที่ 4,941.439 ตารางกิโลเมตร หรือ 3,088,399.375 ไร่ |
|
ทิศเหนือ |
ติดต่อกับ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบ |
|
ทิศใต้ |
ติดต่อกับ อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา และ ช่องแคบมะลากา มหาสมุทรอินเดีย |
|
ทิศตะวันออก |
ติดต่อกับ อำเภอควนขนุน อำเภอกงหรา อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง โดยมีเทือกเขาบรรทัดกั้นอาณาเขตตลอดแนว |
|
ทิศตะวันตก |
ติดต่อกับ อำเภอคลองท่อม อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ และมหาสมุทร อินเดีย |
|
|
|
การปกครอง |
|
- จังหวัดตรังแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 10 อำเภอ คือ
1. อำเภอเมือง
2. อำเภอกันตัง
3. อำเภอห้วยยอด
4. อำเภอย่านตาขาว
5. อำเภอปะเหลียน
6. อำเภอสิเกา
7. อำเภอวังวิเศษ
8. อำเภอนาโยง
9. อำเภอรัษฎา
10. อำเภอหาดสำราญ |
|
|
- องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จำนวน 85 แห่ง |
|
|
- เทศบาล จำนวน 14 แห่ง (เทศบาลนคร 1 แห่ง, เทศบาลเมือง 1 แห่ง, เทศบาลตำบล 12 แห่ง |
|
|
- ตำบลมีจำนวน 87 ตำบล และ 715 หมู่บ้าน |
|
|
- มีประชากรทั้งสิ้น 560,815 คน (ชาย 286,518 คน หญิง 289,542 คน) |
|
|
- มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 4 คน |
|
ลักษณะภูมิประเทศ |
สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่โดยทั่วไปจะเป็นเนินสูง ๆ ต่ำ สลับด้วยภูเขาใหญ่เล็กกระจัดกระจายอยู่ ทั่วไป พื้นที่ราบเรียบมีจำนวนน้อย ซึ่งใช้เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าว ทางทิศตะวันออกมีเทือกเขาบรรทัดยาวจากตอนเหนือจดตอนใต้ และเป็นแนวเขตแบ่งจังหวัดตรังกับจังหวัดพัทลุง ลักษณะดินส่วนใหญ่เป็นดินร่วนปนทราย สภาพป่าเป็นป่าดิบชื้น มีป่าชายเลนสำหรับท้องที่อยู่ติดกับทะเล มีพื้นที่เป็นเกาะจำนวน 46 เกาะ อยู่ในพื้นที่อำเภอกันตัง 12 เกาะ อำเภอปะเหลียน 13 เกาะ และอำเภอสิเกา 21 เกาะ |
|
สภาพภูมิอากาศ |
จังหวัดตรังได้รับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงเดือนตุลาคม มกราคม และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ช่วงเดือนพฤษภาคม - กันยายน ทำให้มีฝนตกตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 27 องศาเซลเซียส ส่วนช่วงเวลาที่อากาศเย็นสบายจะอยู่ที่ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนธันวาคม |
|
ทรัพยากรธรรมชาติ |
|
ทรัพยากรที่สำคัญ ของจังหวัดตรัง จำแนกตามประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้ |
|
|
- ยางพารา เป็นพืชเศรษฐกิจ ที่ทำรายได้ให้แก่ประชาชนอย่างมาก ปลูกกันทั่วไปทุกอำเภอ |
|
|
- สัตว์น้ำ จังหวัดตรังมีอาณาเขตติดต่อกับชายทะเล ด้านมหาสมุทรอินเดีย มีความยาวประมาณ 119 กิโลเมตร จึงอุดมไปด้วย สัตว์น้ำนานาชนิด |
|
|
- แร่ แร่ธาตุที่สำคัญ ได้แก่ ดีบุก ฟลูออไรด์ ถ่านหิน และแร่แบไรท์ |
|
|
- ปาล์มน้ำมัน ปลูกกันมากที่อำเภอสิเกา และอำเภอวังวิเศษ |
|
|
- รังนก มีในท้องที่อำเภอกันตัง |
|
วัฒนธรรมประเพณี |
ประชาชนชาวจังหวัดตรัง มีศรัทธายึดมั่นในศาสนาพุทธ ยิ่งกว่าศาสนาอื่น ภายในจังหวัดตรัง แต่ละอำเภอและแต่ละตำบลมีวัดศาสนาพุทธ สำนักสงฆ์เกือบทุกแห่ง ประชาชนส่วนใหญ่จะมีเชื้อสามาจากชาวจีน ส่วนมากนับถือศาสนาพุทธควบคู่กับการถือศีลกินเจตามฤดูกาลที่มีตามศาลเจ้าต่าง ๆ ประชาชนส่วนใหญ่มีเชื้อสายไทยผสมจีน จริยธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณี จึงมีลักษณะผสมผสานระหว่างไทย - จีน ในด้านจริยธรรม คนตรังส่วนใหญ่จะเป็นคนโอบอ้อม ตรงไป ตรงมา พูดจาเปิดเผย เรียกได้ว่าเสียงดังฟังชัด เป็นเอกลักษณ์ จังหวัดตรังมีศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ทั้งใน ด้านศิลปการแสดงและหัตถกรรม ศิลปการแสดง เช่น มโนราห์ หนังตะลุง ลิเกป่า ศิลปหัตถกรรม เช่น การประดิษฐ์เสื่อเตย มีดพร้า (นาป้อ) ผ้าทอพื้นเมือง (นาหมื่นศรี) และเสวียนหม้อจากก้านจาก |
|
ศาสนา |
จำนวนร้อยละของประชากรที่นับถือศาสนาต่าง ๆ |
|
ศาสนาพุทธ |
ร้อยละ |
83.42 |
|
ศาสนาอิสลาม |
ร้อยละ |
16.09 |
|
ศาสนาคริสต์ |
ร้อยละ |
0.47 |
|
ศาสนาอื่น |
ร้อยละ |
0.02 |
|
อาชีพที่สำคัญ |
|
อาชีพที่สำคัญที่ทำรายได้มาสู่จังหวัดตรัง ได้แก่ |
|
1. การกสิกรรม พืชที่ปลูกที่สำคัญ ได้แก่ ยางพารา ข้าว มะพร้าว ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน มะม่วงหิมพานต์ สะตอ กาแฟ แตงโม ถั่วลิสง ผักต่าง ๆ |
|
2. การประมง จังหวัดตรังมีอาณาเขตติดต่อกับฝั่งทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดียถึง 3 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ กิ่งอำเภอหาดสำราญ อำเภอปะเหลียน อำเภอกันตัง อำเภอสิเกา การประมงจังหวัดตรังให้ผลผลิตมีมูลค่าสูงมาก |
|
3. การอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมโรงงานแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร เช่น โรง งานรมควันยาง สกัดน้ำมันปาล์ม ผลิตอาหารทะเลแช่แข็ง ผลิตอาหารทะเลกระป๋อง ผลิตปลาบดแช่แข็ง (ซูริมิ) ฯลฯ |
|
4. การป่าไม้ ได้แก่ การเผาถ่านไม้ |
|
5. การพาณิชย์ ได้แก่ การค้าส่ง ค้าปลีก ค้ากับต่างประเทศ มีสินค้าจากผลิตผลทางการเกษตร เช่น ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง T.T.R. สัตว์น้ำทะเล และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำทะเล ฯลฯ |
|
การคมนาคม |
การคมนาคมของจังหวัดตรัง มี 3 ทาง คือ ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ทางบก การคมนาคมของจังหวัดตรัง มี 2 ทาง คือ
1.1 ทางรถยนต์
1.2 ทางรถไฟ ซึ่งมีวันละ 2 ขบวน
2. ทางน้ำ ด้วยจังหวัดตรังมีอาณาเขตติดต่อกับทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย จึงมีการคมนาคมติดต่อทางเรือกับจังหวัดต่าง ๆ และกับต่างประเทศเพื่อส่งสินค้า เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น โดยมีท่าเรือ 2 แห่ง คือ ที่อำเภอกันตัง และอำเภอปะเหลียน
3. ทางอากาศ จังหวัดตรังมีสนามบินซึ่งสามารถรับเครื่องบินเฉพาะภายในประเทศ โดยสายการบินไทย ทุกวัน ส่วนวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ วันละ 2 เที่ยวบิน |
สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ |
อำเภอเมืองตรัง
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ สระกะพังสุรินทร์ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ (ทุ่งน้ำผุด) ศูนย์จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง |
อำเภอกันตัง
มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ คือ พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎา สวนสาธารณะควนควนตำหนักจันทร์ ยางพาราต้นแรกของประเทศไทย บ่อน้ำร้อน อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม หาดหยงหลิง เกาะลิบง เกาะลิบง เกาะมุกและถ้ำมรกต เกาะกระดาน เกาะเชือก |
อำเภอห้วยยอด
มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ คือ ทะเลสองห้อง ถ้ำเขากอบ (ถ้ำเล) น้ำตกปากแจ่ม น้ำตกโตนคลาน |
อำเภอย่านตาขาว
มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ คือ สวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ทุ่งค่าย น้ำตกสายรุ้ง น้ำตกไพรสวรรค์ น้ำตกลำปลอก |
อำเภอปะเหลียน
มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ คือ น้ำตกโตนเต๊ะ น้ำตกโตนตก น้ำตกช่องบรรพต น้ำตกเจ้าพระ น้ำตกน้ำพ่าน เกาะสุกร อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ถ้ำสุรินทร์ |
อำเภอสิเกา
มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ คือ หาดปากเมง หาดราชมงคล เขาเจ็ดยอด น้ำตกอ่างทอง |
อำเภอวังวิเศษ
มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ คือ น้ำตกร้อยชั้นพันวัง |
อำเภอนาโยง
มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ คือ สถานีศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาช่อง อุทยานนกน้ำคลองลำชาน ถ้ำเขาช้างหาย กลุ่มทอผ้านาหมื่นศรี น้ำตกกะช่อง |
อำเภอรัษฎา
มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ คือ ถ้ำพระพุทธ ถ้ำพระยาพิชัย |
กิ่งอำเภอหาดสำราญ
มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ คือ หาดสำราญ |