น้ำมันมะกอก สาระพัดประโยชน์ ลดเสียงกรน.....
คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำมันมะกอก เป็นนำมันพิเศษที่มีสรรพคุณแก้สาระพัดโรค ควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด จึงช่วยป้องกัน
โรคหลอดเลือดหัวใจ โดยเฉพาะการแก้อาการนอนกรนได้อีกด้วย วันนี้มีทำความรู้จัดน้ำมันมะกอกกันดีกว่าครับ
มะกอกจัดเป็นผลไม้ที่มีเม็ดในแข็ง หนึ่งลูกจะมีหนึ่งเมล็ด เป็นพืชที่ทนได้ทุกสภาวะอากาศ ดอกมะกอกจะออกช่อในช่วงปลายฤดูหนาว มีดอกเล็กๆ สีขาว ผลจะโตเต็มที่ประมาณ 7-8 เดือนหลังออกดอกลำต้นจะสูงตั้งแต่ 3 เมตร จนถึง 18 เมตร ใบเรียวยาวสีเขียวเข้ม มีหลากหลายพันธุ์
น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันจากพืชที่แม้จะมีแคลอรี่สูง แต่มีข้อดีคือมีกรดไขมันชนิดที่เป็นประโยชน์กับร่างกายสูง และเป็นไขมันชั้นดี
ซึ่งเป็นตัวควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด จึงช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้ นอกจากนี้ในน้ำมันมะกอกยังประกอบด้วย
วิตามินวิตามินเอ และอี ที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ทำให้น้ำมันมะกอกไม่เหม็นหืน โดยไม่ต้องเติมสารกันหืนเหมือนน้ำมันพืช
บางชนิด
ตัวผลมีรสขมและฝาด เมื่อแก่จัดสีจะเปลี่ยนจากเขียวจนเป็นสีคล้ำจนเกือบดำ มะกอกเป็นผลไม้ที่มีน้ำมันมากที่สุด ในผลมะกอกที่แก่จัด 100 กรัม ให้น้ำมันถึง 20-30 กรัม การสกัดเอาน้ำมันต้องเลือกผลที่แก่จัด จึงจะได้น้ำมันมะกอกที่มีประสิทธิภาพ
น้ำมันมะกอกถึงแม้จะมีแคลอรี่สูง แต่มีข้อดี คือ มีกรดไขมันชนิดที่เป็นประโยชน์กับร่างกายสูง ทำให้ไม่เกิดไขมันสะสมในร่างกาย และน้ำมันมะกอกยังช่วยให้คนที่มีอาการนอนกรนลดเสียงกรนให้เบาลงได้ ด้วยการกินน้ำมันมะกอกสำหรับทำอาหาร ซึ่งควรเลือกแบบ EXTRA VIRGIN OLIVE OIL เพราะ เป็นแบบบริสุทธิ์ มีสีเขียวเข้มใส และนิยมนำมาใช้ในการทำสลัด
กินสัก 4-5 หยดก่อนนอน ทำอย่างต่อเนื่อง และทำควบคู่ไปกับวิธีดูแลสุขภาพอื่นๆ ร่วมด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในระดับมาตรฐาน จะช่วยแก้ปัญหานอนกรนให้หมดไปได้
นอกจากคุณสมบัติต่างๆ ที่ไ่ด้กล่าวไปแล้วน้ำมันมะกอกยังสามารถนำมาปรุงอาหารได้ดีอีกด้วย
1. นำมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำน้ำสลัด หรือน้ำจิ้ม
2. นำมาใช้ในการผัด ชนิดที่ใช้น้ำมันน้อย เช่นผัดผักเร็ว ๆ ผัดกระเพรา มักกะโรนี สปาเก็ตตี หรือ พาสต้า
3. นำมาใช้ในการหมักเนื้อสัตว์ชนิดต่าง ๆ ก่อนที่จะนำไปอบจะทำให้เนื้อนุ่มขึ้น
4. ใช้เป็นน้ำมันสำหรับทอด จะช่วยให้อาหารไม่อมน้ำมันเนื่องจากน้ำมันมะกอกจะให้ความร้อนสูง ทำให้อาหารสุกทั่วถึงอย่างรวดเร็ว ไม่สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย
ที่มา : http://www.xn--q3ctbz5akd1duhna.com
เข้าชม : 2229
|