วิธีการดูแลสุขภาพหน้าร้อน
หน้าร้อนแบบนี้ ยิ่งร้อนมาก เจ็บป่วยก็ง่ายแสนง่าย มาดูแลสุขภาพกัน
1. ไม่ควรกินน้ำแข็งหรือดื่มน้ำเย็นจัด ฤดูร้อน อากาศร้อน ต้องหาทางช่วยดับความร้อน เพื่อป้องกันความร้อนกระทบร่างกายมากเกินไป เป็นหลักการที่ถูกต้อง วิธีการดับร้อนด้วยการกินน้ำเย็นจัด ยิ่งใส่น้ำแข็งเข้าไปด้วยยิ่งชื่นใจ แต่นับว่าเป็นวิธีการที่ผิด ควรจะหันมากินน้ำผลไม้ที่หวานน้อย หรือน้ำสมุนไพรแทน
2. เครื่องดื่มที่เหมาะสมในหน้าร้อน ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ เพราะหน้าร้อนจะสูญเสียเหงื่อมาก เพื่อชดเชยร่างกายที่สูญเสียน้ำในบริเวณที่อากาศร้อน ควรดื่มน้ำเปล่าที่สุกแล้ว หรือจะเสริมปรุงแต่งด้วยน้ำตาล เกลือแร่ หรือสมุนไพรอื่น ๆ ก็สามารถเลือกได้
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะทำให้เส้นเลือดขยายตัว ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น อาจทำให้เกิดการขาดน้ำ นอกจากนี้ ในหน้าร้อนแอลกอฮอล์จะซึมเข้าสู่กระแสโลหิตได้เร็ว ทำให้เมาง่าย และอาจช็อกหมดสติได้
3. ไม่ควรนอนให้ลมหรือความเย็นโกรก ความร้อนจากแดดทำให้เสียเหงื่อ เสียพลัง เมื่อนอนหลับตากลมในขณะเหงื่อออก จะทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง ถ้าอุณหภูมิภายนอกยังสูงอยู่ แล้วเหงื่อไม่สามารถระบายออกมาได้ จะมีความร้อนสะสมอยู่ข้างใน ทำให้เวียนหัว รู้สึกหนักหัว ไม่สดชื่นแจ่มใส อาจทำให้เป็นหวัดได้
4. อย่าปรับแอร์ให้เย็นจัด การตั้งอุณภูมิที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหลายครั้งเราเลือกที่จะปรับปุณภูมิให้เย็น เพื่อชดเชยอากาศที่ร้อนจัด แต่ร่างกายของเราอาจปรับตัวไม่ทัน จนไม่สบายขึ้นมาได้
5. การนอนพักผ่อน ควรนอนหลับให้เพียงพอ
6. อย่างดอาหารเช้า เพราะร่างกายต้องการ สารอาหาร เพื่อกระตุ้น ระบบเผาผลาญ ซึ่งจะช่วยควบคุมน้ำหนักด้วย แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหาร จำพวก แป้งขัดขาว หรือ ของทอด ของมัน
หากควบคุมอาหาร แล้วยังรู้สึกท้องอืดและอึดอัดอยู่ เม็กซ์ ทอมลินสัน นักโภชนาการ แนะนำให้ดื่มน้ำชา เปปเปอร์มิ้นต์ ช่วยขับลม จะทำให้รู้สึกสบายขึ้น
อาหารที่เหมาะสำหรับหน้าร้อน คือ อาหารรสขมเย็น เช่น แฟง มะระ สะเดา ช่วยลดความร้อนในร่างกาย นอกจากนี้ ควรเลือกทานอาหารที่สะอาด สด ใหม่ เพื่อป้องกันการเกิดโรคทางเดินอาหารในหน้าร้อน
7. หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาในที่แจ้งหรืออยู่กลางแดดมากเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียเหงื่อและเป็นลมแดดได้ ควรเลือกเป็นการออกกำลังกายในที่ร่ม จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้ดีกว่า
8. สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ระบายความร้อนได้ง่าย และดูแลความสะอาดของร่างกายไม่ให้เกิดการอับชื้น หากเกิดผดผื่นคันควรปรึกษาแพทย์
9. หญิงตั้งครรภ์กับการปฏิบัติตัวในหน้าร้อน คือ ต้องสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด เพื่อป้องกันการกระทบกับความเย็น อาหารที่กินต้องสะอาด ไม่ควรนอนบนสื่อที่เย็น และห่มผ้าคลุมกายเสมอ ระวังอย่าให้เป็นหวัด ห้ามอาบน้ำร้อนจัดหรือเย็นจัดจนเกินไป
10. บุคคลที่ต้องระวังให้มาก คนสูงอาย ุผู้ที่มีระบบย่อยที่ไม่ดี และคนที่มีม้ามบกพร่อง ผู้ที่มีลักษณะสามอย่างที่กล่าวมานั้น เมื่อได้รับความร้อนจากแสงแดด ถ้าดื่มน้ำเย็นมากเกินไป และเกิดความชื้นสะสมในร่างกาย อาการที่แสดงออก คือ ท้องเสีย ติดเชื้อราง่าย ขี้หนาว ปวดหัว ตัวร้อน เป็นต้น
11. อากาศร้อนจัดมีผลต่อ อารมณ์หงุดหงิด และ หดหู่ (SAD - Seasonal Affective Disorder) จากสถิติผู้หญิงจะเป็นมากกว่าผู้ชาย ดังนั้นลองออกไปเดินเล่นช่วงบ่ายแก่ ๆ หรือช่วงที่คนไม่มาก สิ่งสำคัญคือ พยายามกระฉับกระเฉงเข้าไว้
12. ลองทำสเปรย์บรรเทาผิวไหม้เกรียมอย่างง่าย ๆ คือ น้ำกรองบริสุทธิ์ 2 ออนซ์ ใส่เอสเซ็นเชียลออยล์ กลิ่นลาเวนเดอร์ 9 หยด กลิ่นเปปเปอร์มิ้นต์ 2 หยด และ สเปียร์มิ้นต์ 1 หยด ผสมรวมกันแล้วใส่ใน กระบอกฉีดสำหรับพกติดตัว
13. หากต้องออกไปเผชิญ อากาศร้อนภายนอก ควรใช้เครื่องสำอาง เนื้อครีม ที่ปัจจุบันมีเนื้อแห้งเหมือนแป้ง หากหน้ามันปัดทับด้วย บรอนเซอร์ หรือ แป้งชนิดฝุ่น ใช้ครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อออกไปกลางแจ้ง การได้รับแสงแดดมากเกินไปอาจก่อให้เกิดอาการแสบและแพ้ได้ นอกจากนี้อาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังด้วย และควรทาซ้ำทุกสองชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพที่เหมาะสม ควรเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนช่วยในการป้องกันและ UVB อย่าทาครีมกันแดด อย่างเร่งรีบ แพทย์ผิวหนังแนะนำให้ทาให้ทั่วถึงแม้แต่ในร่มผ้าด้วย โดยทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง และหลังว่ายน้ำ แม้ผลิตภัณฑ์จะเป็นสูตรกันน้ำก็ตาม โดยควรเลือกที่มีส่วนผสมของ Mexoryl และ Tinosorb เพราะสามารถกรองรังสียูวีเอและยูวีบีได้ดี
14. ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้และเกิดอาการแสบร้อนที่ผิวหนัง ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง ทางแก้เบื้องต้นคือ การแช่ตัวในอ่างน้ำ อาจใส่ออยล์สำหรับแช่อาบ นอกจากนี้้การกินยาแอสไพริน เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด จากนั้นบำรุงผิว ด้วยโลชันที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ หรือ อาฟเตอร์ซันเจล และหลีกเลี่ยงแดดในวันถัดไป
ดูแลสุขภาพกายกันแล้ว ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพใจกันด้วย ไม่หงุดหงิดไปกับสภาพอากาศ และอย่ายอมให้ความร้อนมาบั่นทอนสุขภาพนะคะ
เข้าชม : 2896
|