เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล 7,424 แห่งทั่วประเทศ จัดโดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) มี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้อำนวยการ กศน.จังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วม ว่า สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคาดหวังที่สุดคือ อยากให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิม ประชาชนต้องไม่ลืมพื้นฐานของตนเอง นั่นคือเกษตรกรรม ปัจจุบันสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น รัฐบาลจึงเข้ามาเสริมสร้างฐานรากทางเศรษฐกิจ เพื่อขับเคลื่อนประเทศตามยุทธศาสตร์เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ในส่วนของเกษตรกร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องส่งเสริมให้เรียนรู้หลักการตลาดด้วย ไม่ใช่เรียนรู้แต่การผลิต ไม่เช่นนั้นจะแก้ปัญหาไม่ได้ ทั้งนี้ การเปิดศูนย์การเรียนรู้ฯ เพื่อยกระดับความรู้ของประชาชน และสร้างอาชีพ เพื่อนำไปประกอบอาชีพ และสร้างรายได้ ซึ่งทุกศูนย์การเรียนรู้ฯ ต้องเชื่อมโยงกัน และนำร่องให้เกิดการเติบโตต่ออย่างเป็นรูปธรรม ต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวม ทั้งระดับฐานรากในประเทศ และต่างประเทศ
“ที่ผมเข้ามา ต้องมารื้อของเก่าทั้งหมด เพื่อยกระดับคนยากจนที่มีกว่าร้อยละ 40 ของประเทศ ให้กินดีอยู่ดี โดยเฉพาะต้องเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาด ให้สินค้าแต่ละภูมิภาคเป็นสินค้าที่แสดงออกทางภูมิศาสตร์ ปัญหาของประเทศในอนาคต คือคนจะออกจากวงจรภาคการเกษตร เราต้องเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง โดยพยายามยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาคการเกษตร โดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปฎิบัติ ซึ่งพระองค์ได้วางรากฐานไว้ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยดีขึ้น วันนี้สิ่งที่รัฐบาลทำคือน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาขับเคลื่อน ซึ่งทุกคนต้องทำความเข้าใจ และนำไปปฎิบัติ ช่วยกันสร้างความดีถวายเป็นพระราชกุศล” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
Cr.มติชนออนไลน์
เข้าชม : 705
|