เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2501 ขณะที่พระชนมายุ ได้ 3 พรรษาเศษ พระองค์ทรงเข้ารับการศึกษาระดับอนุบาลที่โรงเรียนจิตรลดา ทรงมีพระสติปัญญาเฉลียวฉลาดสนพระทัยในการอ่านอย่างมาก ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ จึงทรงมีพระสมญาอีกอย่างหนึ่งว่า “หนองหนังสือ” ไม่ว่าพระองค์จะเสด็จประทับ ณ ที่ใด พระองค์จะทรงมีหนังสือติดพระหัตถ์อยู่เสมอ แม้จะเสด็จประทับในรถยต์หรือเครื่องบินก็ตาม
พระองค์มีพระปรีชาสามารถในหลายๆด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านอักษรศาสตร์และดนตรีไทย ซึ่งพระองค์ได้นำมาใช้ในการอนุรักษ์ส่งเสริมและให้การอุปถัมภ์ในด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศจากพระราชกรณียกิจในด้านศิลปวัฒนธรรมนี้ พระองค์จึงได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระสมัญญาว่า“เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย”และ“วิศิษฏศิลปิน”นอกจากนี้พระองค์ยังทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆเช่น ด้านการศึกษา การพัฒนาสังคม โดยทรงมีโครงการในพระราชดำริส่วนพระองค์หลายหลากโครงการซึ่งโครงการในระยะเริ่มต้นนั้น มุ่งเน้นทางด้านการแก้ปัญหาการขาดสารอาหารของเด็กในท้องถิ่นทุรกันดาร และพัฒนามาสู่การให้ความสำคัญทางด้านการศึกษาเพื่อการพัฒนาราษฎร
และด้วยในวันที่ 2 เมษายนที่จะถึงนี้ ซึ่งถือว่าเป็นวันที่เป็นมงคลยิ่งเราทุกคน คนไทยควรจะรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมกันถวายพระพรในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ให้ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง และทรงพระเจริญยิ่งยื่นนานด้วยนะครับ
ที่มา :http://scoop.mthai.com/specialdays/5657.html