[x] ปิดหน้าต่างนี้
 
                                                                                                 
         
 

  

ข่าวประชาสัมพันธ์
2 เมษา วันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ

อังคาร ที่ 1 เดือน เมษายน พ.ศ.2557




พระราชประวัติ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรรัฐสีมาคุณากรปิยชาติสยามบรมราชกุมารี

        สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชสมภพ   เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2498ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต    ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์ที่ 2ในพระบาทสมเด็กพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ถวายพระนามว่า "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดากิติโสภาดุลภาคย์"
 
        
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2501 ขณะพระชนมายุ ได้ 3 พรรษาเศษได้ทรงเข้ารับการศึกษาระดับอนุบาลที่โรงเรียนจิตรลดา ทรงมีพระสติปัญญาเฉลียวฉลาดสนพระทัยในการอ่านอย่างมากมายมาแต่ยังทรงพระเยาว์จึงทรงมีพระสมญาอีกอย่างหนึ่งว่า "หนอนหนังสือ" ไม่ว่าจะเสด็จประทับ ณที่ใด
 
จะทรงมีหนังสือติดพระหัตถ์อยู่เสมอแม้จะเสด็จประทับในรถยนต์หรือเครื่องบิน

        ปีการศึกษา 2510 ขณะทรงศึกษาอยู่ในชั้นประถมปีที่ 7 ทรงสอบข้อสอบของกระทรวงศึกษาธิการซึ่งวัดผลทั่วประเทศ ทรงทำคะแนนรวมได้ร้อยละ 96.6 เป็นลำดับที่ 1 ของการสอบวัดผลระดับประโยคประถมศึกษาตอนปลายของประเทศ
และในปีการศึกษา 2515 ทรงสอบข้อสอบของกระทรวงศึกษาธิการ ได้คะแนนรวมร้อยละ 89.30 เป็นลำดับที่ 1 ของประเทศในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แผนกศิลปะ
 
          
เมื่อทรงศึกษาจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายทรงสอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ที่คณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยทรงลงทะเบียน เป็นนิสิตตามระเบียบของมหาวิทยาลัยเลขทะเบียน 16138 ทรงเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์แรกที่ทรงศึกษามหาวิทยาลัยในประเทศไทยตลอดระยะเวลาที่ทรงเข้าศึกษาเป็น "นิสิต"ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดา ฯทรงมีพระจริยาวัตรและมีน้ำพระทัย "น้องพี่สีชมพู"อย่างแท้จริง   ทรงเข้าร่วมพิธีและกิจกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกับนิสิตอื่นๆทุกคน เช่น เสด็จมารับการปฐมนิเทศทรงร่วมในพิธีไหว้ครู ตามประเพณีไทย  โดยเฉพาะกิจกรรมวันรับน้องใหม่ทรงปฏิบัติตาม "ประเพณี" ของชาวจุฬาฯ ตามดังกราบบังคมทูลของรุ่นพี่ เช่น ทรงร้องเพลงบูมจุฬา ฯ แสดงลิเก ลอดซุ้ม ทรงเข้าซ้อมเพลงเชียร์ ทรงกีฬาเสด็จร่วมทรงบาตรในวันครบรอบการสถาปนามหาวิทยาลัย ทรงร่วมแข่งขันกีฬาระหว่างนิสิตกับคณาจารย์ในวันเกิดคณะอักษรศาสตร์ คือวันที่ 3 มกราคมของทุกปี  ทรงขับร้องเพลงลูกทุ่งกับวงดนตรีของคณะ  ทรงร่วมพัฒนาคณะปลูกต้นไม้ประดับบริเวณคณะ  นอกจากนั้นยังทรงสมัครเป็นสมาชิกชมรมดนตรี ชมรมวรรณศิลป์ของสโมสรจุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย สมาชิกชมรมภาษาไทย ภาษาตะวันออกและประวัติศาสตร์ในคณะอักษรศาสตร์ทรงจัดหาเรื่องและประทานบทพระราชนิพนธ์ลงในหนังสือ "อักษรศาสตร์พิจารณ์"ของชุมนุมวิชาการคณะอักษรศาสตร์ ทรงร่วมมือกับนิสิตภาควิชาประวัติศาสตร์ ริเริ่มจัดทำหนังสือ "สะพาน"เพื่อรวบรวมบทความและรายงานของนิสิตลงพิมพ์เผยแพร่ 
 
        ในการศึกษาปีแรกทรงสอบได้เป็นที่ 1 ของนิสิตชั้นปีที่1 ของคณะอักษรศาสตร์ด้วยคะแนนเฉลี่ย 3.94
ทรงได้รับรางวัล เงินทุนศาสตราจารย์พระวรเวทย์พิสิฐซึ่งเป็นสำหรับนิสิตปีที่1 ซึ่งสอบได้คะแนนยอดเยี่ยม ในวิชาภาษาไทยทรงได้รับรางวัลของสมาคมฝรั่งเศสที่มอบให้นิสิต ซึ่งได้คะแนนสูงสุดในแต่ละชั้นปีปีต่อมาทรงได้รับรางวัลพระยาสุจริตธำรง  สำหรับคะแนนยอดเยี่ยมวิชาภาษาไทยและทรงได้รับทุนเรียนดีทุกปี แม้จะทรงสนพระทัยพระพุทธศาสนาและภาษาบาลีเป็นการส่วนพระองค์ แต่ก็ทรงตระหนักว่าพระองค์จะทรงสามารถปฏิบัติพระราชกิจให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติได้ดีที่สุดนั้นจะต้องทรงรอบรู้เรื่องประเทศเพื่อนบ้านให้มากที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงทรงเลือกเรียนวิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชาเอกวิชาภาษาไทย และวิชาบาลี- สันสกฤต เป็นวิชาโท และทรงลงทะเบียน เข้าร่วมการบรรยายโดยไม่เข้าสอบอีก 4 รายวิชา
 
          
เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2519 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดา ฯ ทรงสอบได้คะแนนเฉลี่ย 3.98ทรงได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และเป็นที่ 1 ของผู้สำเร็จการศึกษาอักษรศาสตร์บัณฑิต  ทรงได้รับ รางวัลรันซิแมนคะแนนยอดเยี่ยมในสาขาวิชาประวัติศาสตร์ รางวัลสุภาพจันทรโบส สำหรับนิสิตหญิงที่ได้เกียรตินิยมและได้คะแนนสูงสุดในแต่ละสาขาวิชา
 
         
วันที่ 15 กรกฏาคม 2520 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดาฯทรงรับพระราชทานปริญญาและนำบัณฑิตปฏิญาณตนต่อพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ท่ามกลางความปลาบปลื้มปิติโสมนัสของพสกนิกร ชาวจุฬาฯชาวไทยด้วยทรงเป็น "สมเด็จเจ้าฟ้าฯ บัณฑิต" พระองค์แรก เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปทรง"ถ่ายรูป" กับองค์บัณฑิตใหม่พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าฯ พระราชินีนาถพระราชวงศ์และพระประยูรญาติ
เช่นเดียวกับครอบครัวของบัณฑิตอื่นๆ
 
         
โอกาสนี้ กองกษาปณ์กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังได้ผลิตเหรียญพระฉายาลักษณ์ในฉลองพระองค์ครุยบัณฑิตเพื่อเทิดพระเกียรติในการที่ทรงเป็น "เจ้าฟ้าบัณฑิต"พระองค์แรกที่ทรงสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทย
 
         
เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาขั้นปริญญาตรีแล้วสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดาฯทรงศึกษาต่อขั้นปริญญาโทสาขาวิชาบาลี - สันสกฤตภาควิชาโบราณคดีที่มหาวิทยาลัยศิลปากรพร้อมกัน เป็นพระราชภาระที่หนักยิ่งเนื่องจากทรงมีพระราชกิจต้องตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในต่างจังหวัดอยู่เนื่องๆเช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ทรงศึกษาระดับปริญญาตรีแต่ด้วยทรง มีพระวิริยะอุตสาหะทรงพระปรีชาสามารถรอบรู้ในวิทยาการ ทรงรู้จักจัดสรรเวลาและทรงวางระเบียบการศึกษาที่ดี
 
       พระองค์ทรงสามารถศึกษารายวิชาที่กำหนดไว้ในหลักสูตรได้ครบถ้วนภายในเวลา 2 ปี ทรงได้รับพระราชทานปริญญาศิลปศาสตร์มหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยศิลปากร  เมื่อปี พ.ศ. 2522 และได้รับปริญญาอักษรศาสตร์มหาบัญฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ. 2523

       หลังจากนั้นได้ทรงศึกษาขั้นปริญญาดุษฎีสาขาพัฒนะศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตรทรงสำเร็จการศึกษาได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิต เมื่อปี พ.ศ. 2529 
 
        สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดาฯได้ทรงแบ่งเบาพระราชภารกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพรมบรมราชินีนาถในทุกด้านทั้งด้านการเกษตร   การชลประทานการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ทรงเป็นผู้แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปต่างประเทศเพื่อเจริญพระราชไมตรีกับประมุขของประเทศนั้นๆ 
 
         ใน พ.ศ.2518 ได้ทรงก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เพื่อช่วยเหลือทหารตำรวจพลเมืองที่บาดเจ็บหรือพิการอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่  เพื่อประเทศชาติและทรงดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ด้วยพระองค์เอง ในปี พ.ศ. 2523 ทรงมีโครงการเกษตร เพื่ออาหารกลางวันแก่นักเรียนในชนบทห่างไกล และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในปีเดียวกันนี้ยังได้ทรงรับพระราชภาระเป็นองค์ประธานคณะกรรมการอำนวยการบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระบรมมหาราชวังในโอกาสฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีด้วยพระปรีชาสามารถพระราชจริยาวัตรและน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมด้วยพระเมตตามิสิ้นสุดนี้
 
         
ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯสถาปนาพระอิสริยศักดิ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดาฯ ขึ้นเป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรรัฐสีมาคุณากรปิยชาติ  สยามบรมราชกุมารี   นับเป็นศุภวาระมงคลสมัยที่ยังความชื่นชมยินดีมาสู่พสกนิกรชาวไทยโดยทั่วหน้ากัน
 
          
ด้วยพระปรีชาสามารถ พระปัญญา และพระเมตตา ที่พระองค์ทรงกระทำมาโดยตลอดประชาชนชาวไทยจึงมีความปิติโสมนัสเป็นที่สุดที่ได้มี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เป็น "ลูกแก้ว"เสริมพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถตลอดจนเป็นคู่บุญบารมีและเป็นเกียรติของประเทศชาติสืบไปชั่วกาลนาน
    

   ที่มา http://www.ranthong.com/smf/index.php?topic=6459.0;wap2




เข้าชม : 1154


ข่าวประชาสัมพันธ์ 5 อันดับล่าสุด

      วันฉัตรมงคล 4 / พ.ค. / 2567
      2 เมษายน 2567 วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3 / เม.ย. / 2567
      5 ธันวาคม 2566 น้อมรำลึกในพระมหากรุณาที่คุณอันหาที่สุดมิได้ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ 4 / ธ.ค. / 2566
      13 ตุลาคม วันนวมินทรมหาราช วันคล้ายวันสวรรคต รัชกาลที่ 9 12 / ต.ค. / 2566
      วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2566 13 / ส.ค. / 2566


 
กศน.ตำบลลิพัง
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอปะเหลียน
ที่อยู่..ม.5 ตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง .เบอร์โทร.....075 268395.
e-mail:..Korsornor_ Lipang55@ hotmail.com

Powered by MAXSITE 1.10   Modify by   นิกร เกษโกมล   Version 2.05