ความเป็นมาของ “วันเข้าพรรษา คือ วันงดดื่มสุราแห่งชาติ”
ความเป็นมาของวันงดดื่มสุราแห่งชาตินั้น เริ่มต้นจากการที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
(สสส.) เครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และองค์กรภาคี ได้รณรงค์โครงการงดเหล้าเข้าพรรษามาตั้งแต่ปี ๒๕๔๖
เป็นต้นมา พบว่ามีผู้เข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ จากปกติที่เคยมีผู้งดเหล้าเข้าพรรษาร้อยละ ๑๕
เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ๔๐-๕๐ โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งหากรัฐบาลรับรองให้มี “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ”
ยิ่งเป็นการสนับสนุนธรรมเนียมปฏิบัติที่ดีงามนี้ให้ดียิ่งขึ้น โดยมีการสำรวจความคิดเห็นผ่านสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ในปี ๒๕๔๙
พบว่าประชาชนร้อยละ ๘๘.๖ เห็นด้วยกับ การกำหนดให้มี “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” ๑ วันต่อปี และเห็นว่า “วันเข้าพรรษา”
ควรเป็น “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” ร้อยละ ๖๑.๖
ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ รัฐบาลได้ประกาศกำหนดให้ “วันเข้าพรรษา” ของทุกปี เป็น
“วันงดดื่มสุราแห่งชาติ”ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยให้เริ่มต้นใช้บังคับในวันที่ ๑๘
กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ (วันเข้าพรรษาของปีนั้น)
ปีถัดมา พ.ศ. ๒๕๕๒ รัฐบาลยังได้ประกาศกำหนดให้ “วันเข้าพรรษา” เป็นวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เพื่อรณรงค์ให้ชาวไทยร่วมกันตั้งสัจจะอธิษฐานรักษาศีล ๕ งด-ลด-ละ-
เลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันเข้าพรรษา และในช่วงตลอด ๓ เดือนระหว่างฤดูเข้าพรรษา
อันจะเป็นพื้นฐานในการที่จะเลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดไป เพื่อส่งเสริมค่านิยมที่ดีให้แก่สังคมไทย
ที่มา : http://www.themesupaworld.com/