พบพ่อแม่ไทย จูงลูกเข้าห้องสมุดน้อยกว่าการกินและการเที่ยววันหยุด
แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจ “ครอบครัวกับการอ่าน” กว่า ๑,๐๐๐ ครอบครัวทั่วประเทศพบว่า กิจกรรมส่งเสริมการอ่านระดับครอบครัวที่ปฏิบัติกันน้อยที่สุดคือ การพาบุตรหลานเข้าห้องสมุด อ่านหนังสือ และเล่นกีฬา
นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานฯ กล่าวว่า “จากผลงานวิชาการและงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การจะสร้างฐานการรักการอ่านได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นประโยชน์และเป็นฐานสำคัญของการปลูกฝังความมีน้ำใจ ความเกื้อกูลต่อชีวิตรอบข้าง และก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ ตลอดชีวิตของมนุษย์ ควรจะเริ่มในช่วงปฐมวัยแห่งชีวิตคือ ๐-๖ ปี โดยเฉพาะช่วง ๓ ปีแรกที่สมองกำลังพัฒนาได้สูงสุด ซึ่งผลสำรวจพบว่า ปัจจัยที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการอ่าน ๓ อันดับแรกคือ พ่อแม่ร้อยละ 27.85 รองลงมาได้แก่ตัวเด็กเอง ร้อยละ 25.19 และครูอาจารย์ร้อยละ 24.16 จะเห็นได้ว่า “ครอบครัว” เป็นหน่วยที่เล็กที่สุด แต่มีพลังและมีความสำคัญที่สุดที่จะสร้างรากฐานและนิสัยรักการอ่านอย่างมี คุณภาพ ทางแผนงานฯจึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจภาวะ “ครอบครัวกับการอ่านในสังคมไทย” ในกลุ่มตัวอย่างจำนวน ๑,๐๕๗ คน พบข้อมูลว่า พ่อแม่ผู้ปกครองมีการปลูกฝัง สร้างค่านิยมให้บุตรหลานเป็นคนรักการอ่าน (คะแนน ๗.๘๕) โดยที่พ่อแม่และผู้ปกครองก็มีความชอบและรักการอ่านด้วย (คะแนน ๗.๘๑ ) และยังมีการส่งเสริม สนับสนุน หาซื้อหนังสือให้บุตรหลาน (คะแนน๗.๗๒)
แต่ประเด็นที่พ่อแม่และผู้ปกครองปฏิบัติได้น้อยคือการพาบุตรหลานไปห้องสมุด และการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการอ่านและกิจกรรมที่ครอบครัวมักทำในวันหยุด คือการทำอาหารกินด้วยกัน (๒๔.๓๓ %) ไปเที่ยว (๒๒.๗๒%) หรือไม่ก็เดินห้างสรรพสินค้า ในขณะที่การอ่านหนังสือยังมีน้อยกว่า (๑๔.๘๘%) ดังนั้น ทุกๆวันหยุดหรือช่วงปิดเทอมจึงขอเชิญชวนให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้ชักชวนบุตรหลานเข้าไปใช้บริการอ่านหนังสือและค้นคว้าเรื่องราว ที่สนใจในห้องสมุด เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆได้เจอหนังสือคุณภาพดี มีความหลากหลาย และมีจำนวนมากกว่าหนังสือที่บ้าน ทั้งยังเป็นการฝึกให้เด็กๆได้มีความรับผิดชอบ มีวินัยในการยืม-คืนหนังสือ ซึ่งขณะนี้ห้องสมุดต่างๆได้มีการพัฒนาไปมาก บางห้องสมุดจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในช่วงวันหยุดและปิดเทอมแก่เด็กๆด้วย”
นางสุดใจ กล่าวเสริมว่า “เนื่องจากการอ่านเป็นปัจจัยหนึ่งของการสร้างความสุขที่มีคุณภาพต่อชีวิต ทางแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จะได้นำผลสำรวจในครั้งนี้พัฒนาเป็นดัชนีความสุขจากการอ่าน ดัชนีสุขภาวะทางสังคมจากการอ่าน” เพื่อติดตาม กระตุ้นสังคมให้เห็นความสำคัญของการอ่านมากขึ้น”
ขณะนี้ทางแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ได้รวบรวมรายชื่อหนังสือที่ได้รับรางวัลและหนังสือที่ได้รับการคัด สรรจากหน่วยงานและสถาบันต่างๆพร้อมกับแผนที่รายชื่อห้องสมุดทั่วประเทศที่ สามารถเข้าไปใช้บริการ สามารถติดตามได้ใน www.happyreading.in.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ได้พัฒนาให้ผู้พิการทางสายตาเข้าถึงได้ด้วย
เข้าชม : 1081
|