โดยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว นายอนุดิษฐ์เปิดเผยว่า ผู้เข้ารอบในการผลิต"แท็บเล็ต" 4 รายสุดท้ายที่มีคุณสมบัติถึงพร้อมตามที่รัฐบาลกำหนดได้แก่ หัวเว่ย ทีซีแอล ไฮเออร์ และสโคป ทั้งนี้ทางคณะอนุกรรมการได้เดินทางไปถึงประเทศจีนในช่วงวันที่ 3 - 4 มีนาคม เพื่อเยี่ยมชม และตรวจสอบรายละเอียดการผลิต"แท็บเล็ต"ของทั้ง 4 บริษัท ซึ่งในส่วนของคุณสมบัติ"แท็บเล็ต"ที่ทางรัฐบาลกำหนดไว้คือ ต้องเป็นแท็บเล็ตที่มีหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว หน่วยความจำ 16GB และทำงานด้วยดูอัลคอร์โพรเซสเซอร์ 1GHz แถมยังต้องทำงานภายในระบบปฏิบัติการ Android 3.2 Honeycomb ได้อีกด้วย อย่างไรก็ดี สเป็กที่ทาง SCOPE เสนอมาจะเป็น Android 4.0 Ice Cream Sandwich และตัวเครื่องรองรับการเชื่อมต่อ WiFi, GPS และ USB 2.0 สนนราคาถูกสุดเมื่อเทียบกับเจ้าที่เหลือ โดยตกเครื่องละ 81 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,430 บาท 

ในส่วนของนโยบายการจัดการเกี่ยวกับแท็บเล็ตที่มีการประชุมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่ประชุมมีข้อตกลงว่าจะเพิ่มการกระจายแท็บเล็ตไปยังเด็กนักเรียนชั้นประถมในปีการศึกษาหน้าด้วยทำให้ยอดการสั่งซื้อเพิ่มจาก 600,000 เป็น 900,000 เครื่อง ด้วยงบประมาณเริ่มต้นที่ 1.9 พันล้านบาท ทั้งนี้ "แท็บเล็ต"สำหรับเด็กนักเรียน เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้รับความสนใจมาก และใช้ในการหาเสียงเมื่อปีที่แล้ว ขณะเดียวกันโครงการ"แท็บเล็ต"กำลังเป็นที่ถกเถี่ยงกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการควบคุมคอนเท็นต์ที่ไม่เหมาะสม การใช้อุปกรณ์ไปในทางที่ผิด รวมถึงคอนเท็นต์ที่เหมาะสมต่อการใช้ในการเรียนการศึกษา