ที่มาของชื่อ ดอกแก้วกัลยา
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามดอกไม้ประดิษฐ์โดยคนพิการของศูนย์ส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการ สภาสังคมสงเคราะห์ฯ ว่า "ดอกแก้วกัลยา" ทั้งทรงพระราชทานพระอนุญาตให้ใช้เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ ของคนพิการ และทรงมีพระดำรัสให้ฝึกอบรมวิชาชีพคนพิการเพื่อประดิษฐ์ดอกแก้วกัลยา ให้คนพิการมีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ๒๕๔๗ ตามที่ศูนย์ส่งเสริมอาชีพฯ ได้มีหนังสือขอพระราชทานพระอนุญาต
ดอกแก้วกัลยาได้จดลิขสิทธิ์ ๒ ฉบับ คือ
๑.ใน นามสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และทรงมอบให้คณะกรรมการส่งเสริมอาชีพ ฯ เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
๒.ในนามศูนย์ส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการ สภาสังคม สงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ดอกแก้วกัลยานั้นเป็นดอกไม้ในจินตนาการ มาจากดอกไม้ 2 ชนิดด้วยกันคือ ดอกแก้ว และดอกแก้วเจ้าจอม ที่มีกลีบดอกสีฟ้าคราม ซึ่งดอกแก้วทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นดอกไม้ยืนต้นที่แข็งแรง ใบสวยงาม ออกดอกเป็นพวง ให้ความหมายเปรียบเทียบประดุจคนเราทุกคนมีน้ำใจเป็นหนึ่งเดียว เพราะฉะนั้นความหมายโดยรวมของดอกแก้วกัลยานั้นคือ ดอกไม้จากนางแก้ว ที่มีน้ำพระหฤทัยสดใส ให้แสงสว่างอบอุ่นกับมวลหมู่คนพิการในแผ่นดินไทย ดั่งน้ำพระหฤทัยจากองค์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย จัดรายการเทิดพระเกียรติเนื่องในวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ด้วยการจัดรายการคุณพระช่วยตอนพิเศษ นำเสนอเรื่องราวพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะแก่คนพิการ ที่ทรงพระราชทานนามดอกแก้วกัลยา เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์แก่คนพิการทั่วประเทศ และนับเป็นเกียรติประวัติที่ ประภาส ชลศรานนท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเวิร์คพอยท์ฯ ได้มีโอกาสตอบแทนพระคุณแผ่นดิน โดยการแต่งเนื้อร้อง ทำนองเพลง “แก้วกัลยา” ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระพี่นางเธอฯ เนื่องในวโรกาสสำคัญนี้ ซึ่งเพลงแก้วกัลยานี้จะได้นำไปใช้เป็นเพลงสัญลักษณ์แห่งคนพิการต่อไปอีกด้วย
การร่วมขับร้องเพลง “แก้วกัลยา” ได้รับความร่วมมือระหว่างสมาคมดนตรีเพื่อคนตาบอด, วงซิมโฟนี่จากกองดุริยางค์ทหารบก และ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ที่คัดเลือกน้อง ๆ พิการทางหูทั้งชายและหญิงมาร่วมแสดงภาษามือประกอบเพลงเพื่อสื่อสารให้กับ ผู้พิการทางหูทั่วประเทศ ส่วนนักร้องนำคือ น้องตั๊ก อธิศรี สงเคราะห์ และคอรัสประสานเสียงอีก 4 ท่าน จากสมาคมดนตรีเพื่อคนตาบอด ปรากฏว่าทันทีที่เสียงเพลงกระหึ่มขึ้น ผู้ชมทั่วทั้งห้องบันทึกเทปที่พากันมาชมภาพการบันทึกเทปพิเศษนี้ต่างเงียบ กริบ เพราะเสียงของน้องตั๊กนั้นกังวานใสจนขนลุกซู่ ส่วนซิมโฟนี่วงดุริยางค์ทหารบกนั้นผสมผสานเข้ากับดนตรีไทยได้อย่างเหมาะ เจาะลงตัวทำเอาขนลุกซู่
โดยเฉพาะกับท่อนสำคัญที่ว่า “ดอกไม้ฟ้า แห่งกรุณา ประทานลงมาแสนชื่นใจ ดั่งดอกไม้จากเทวาลัยจากแดนสรวง....ดอกไม้ฟ้า แก้วกัลยา แทนใจทั้งดวง แทนความรักความเป็นห่วงความชื่นชม” ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นเพลงอันไพเราะนี้หลายฝ่ายต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจเตรียม งานกันอย่างดี ตั้งแต่การกลั่นกรองเนื้อร้อง ทำนอง รวมถึงการซักซ้อมระหว่างวงดนตรีกับนักร้อง เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุดเพื่อน้อมถวายแด่พระองค์ท่านฯ และทั้งหมดนี้นับเป็นภาพสุดประทับใจ ที่ใครที่ได้ฟังจะได้สัมผัสถึงความรักความมุ่งมั่นจากใจของทุกคนที่มีต่อ พระองค์ ซึ่งทันที่ที่เพลงจบเสียงตบมือดังสนั่นต่อเนื่อง ทำเอานักร้องนักดนตรียิ้มชื่นมื่น ส่วนทีมงานนั้นนั่งน้ำตาไหลไปตามๆกัน เพราะปลื้มใจสุด ๆ กับการร่วมร้อยดวงใจครั้งยิ่งใหญ่ที่ทุกคนทำเพื่อสมเด็จพระพี่นางฯ
น้องตั๊ก นางสาวอธิศรี สงเคราะห์ อายุ 22 ปี นักร้องสมาคมดนตรีเพื่อคนตาบอด กล่าวว่า “หนู ร้องเพลงให้กับสมาคมดนตรีคนตาบอด ตั้งแต่สมาคมเริ่มก่อตั้งเมื่อ 2 ปีที่แล้วค่ะ ครั้งแรกที่ได้ทราบว่าตัวเองจะได้ร้องเพลงนี้ก็รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่าง มากค่ะ เพราะทราบว่าเพลงแก้วกัลยา เป็นเพลงที่ คุณประภาส ชลศรานนท์ แต่งขึ้นเพื่อถวายแด่สมเด็จพระพี่นางฯ เนื่องในวโรกาสคล้ายวันประสูตร ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และยังใช้เป็นสัญญลักษณ์ของคนพิการเป็นครั้งแรกอีกด้วย ซึ่งหนูทราบมาว่าสมเด็จพระพี่นางฯท่านทรงโปรดดนตรีมาก หนูจึงตั้งใจร้องเพลงนี้มากๆค่ะ ให้สมกับที่ได้รับเลือกมาเป็นนักร้องนำ แม้จะใช้เวลาในการซ้อมไม่นานก็ตาม ครั้งแรกที่ได้ฟังเนื้อร้องหนูขนลุกเลยค่ะ เรียกว่าประทับใจจนบอกไม่ถูก เนื้อเพลงสวย ดนตรีสวย ประกอบกันแล้วเป็นเพลงที่ไพเราะมากๆค่ะ ไม่รู้ว่าคุณประภาสแต่งขึ้นได้ยังไง โดยเฉพาะท่อนที่ร้องว่า “ดอกไม้ฟ้า แก้วกัลยา ประทานลงมาแสนชื่นใจ” ฟังแล้วดีจังค่ะ ซึ่งเนื้อหารวมๆในเพลงนั้นฟังแล้วได้กำลังใจมาก ๆ หนูร้องกี่รอบ ๆ ก็รู้สึกว่าชื่นใจ ก็อยากฝากให้คนไทยทุกคนโดยเฉพาะพวกคนพิเศษได้ฟังเพลงนี้นะคะ รับรองได้ว่าต้องชอบและได้กำลังใจกันทุกคนแน่นอนค่ะ”
คุณ ประภาส ชลศรานนท์ เปิดเผยถึงความรู้สึกที่มีต่อผลงานชิ้นโบว์แดงนี้ว่า “ต้อง เรียกได้ว่าเป็นช่วงดีๆช่วงหนึ่งของชีวิตที่ได้ทำงานอย่างนี้ ที่ภูมิใจที่สุดเลยก็คือในฐานะที่เป็นคนไทยและได้ใช้ความรู้ความสามารถที่ ตัวเองมีอยู่ ทำงานถวายเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ คนไทยเราโชคดีมาก ทุกๆพระองค์ท่านทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรอย่างแท้จริง อย่างสมเด็จพระพี่นางท่านก็ทรงงานอย่างหนักเพื่อโอบอุ้มคนพิการมาตลอด ก่อนจะแต่งเพลงนี้ก็ได้ศึกษาจากหนังสือของสภาสังคมสงเคราะห์ ที่พูดถึงพระราชประวัติของพระองค์ท่าน รวมไปถึงที่มาที่ไปของดอกแก้วกัลยา ที่พระองค์ทานทรงพระราชทานให้คนพิการ พระองค์ท่านทรงสนพระทัยในเรื่องกำลังใจและศักดิ์ศรีของคนพิการเป็นอย่างมาก ทรงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่เขียนเพลงนี้ขึ้นมา ผมเลือกดนตรีคลาสสิกและดนตรีไทย เพราะผมอยากให้มีความเป็นสากลไปพร้อมๆกับการเชิดชูความงดงาม ของศิลปวัฒนธรรมไทย ยิ่งได้นักร้องแก้วเสียงดีๆอย่างน้องตั๊ก ยิ่งทำให้เพลงอบอุ่นและทรงพลังสมใจ และแม้จะเป็นเพลงจังหวะสามสี่แบบวอลซ์ แต่การเอาฉิ่งเอาระนาดซอและขลุ่ยเข้าไปบรรเลงด้วยก็ยังรู้สึกถึงความเป็น ไทยได้ ที่บอกว่าเป็นช่วงดีๆช่วงหนึ่งของชีวิตก็คือ การได้มาร่วมงานกับคนพิการอย่างเต็มรูปแบบ ยี่สิบกว่าปีก่อนผมเคยแต่งเพลง ต้นชบากับคนตาบอด ที่พูดถึงคนตาบอดที่มองเห็นความงามของโลกจากหัวใจของเขามาแล้วก็จริง แต่ตอนที่บันทึกการแสดงสดเพลงแก้วกัลยาในรายการคุณพระช่วยนี่สิครับ ของจริงที่เหนือกว่าที่ผมจินตนาการไว้ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเท่า “พวกเขา มองโลกงดงามอย่างแท้จริงเลยครับ สามสิบคนบนเวที หูพิการ ตาบอด ขาพิการ การแสดงของพวกเขาเป็นธรรมชาติมาก สดใส เต็มไปด้วยพลังและออกมาจากใจโดยไม่มีอะไรเคลือบแฝงเลย มันเหมือนน้ำในบ่อที่ใสมาก ไม่มีอะไรแขวนลอยอยู่เลย วันนั้นในสตูดิโอนี่ คนที่ใจแข็งที่สุดผมว่าก็มีน้ำตาคลอ ๆ นะ มันซึ้งใจที่เห็นพวกเขาทำได้และทำได้ดีเสียด้วย”
เข้าชม : 1389
|